หลังจากที่รัฐบาลประกาศว่าจะมีการจัดซื้อวัคซีน Sinovac เพิ่มอีก 12 ล้านโดส ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (7 กันยายน) ได้มีมติอนุมัติงบประมาณ 4 พันล้านบาท เพื่อใช้ซื้อวัคซีน Sinovac จำนวน 12 ล้านโดสดังกล่าวแล้ว
หลังจากการประชุมในวันนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงิน 4,254.36 ล้านบาท สำหรับจัดหาวัคซีน Sinovac เพิ่มเติมจำนวน 12 ล้านโดส เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่ประชาชน โดยจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่
- กลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรังระยะที่ 5 (ไตวายเรื้อรัง) โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด รังสีบำบัดและภูมิคุ้มกันบำบัด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน
- ประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป
- เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม COVID-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย เช่น ด่านควบคุมโรคตามชายแดน สถานกักกันโรค ทหาร ตำรวจ เจ้าที่เก็บขยะติดเชื้อ เป็นต้น
- ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า การจัดซื้อวัคซีน Sinovac จำนวน 12 ล้านโดสในครั้งนี้ สั่งเพราะเป็นวัคซีนที่สามารถจัดซื้อได้เลย ไม่ต้องสั่งซื้อล่วงหน้า และจะสามารถส่งมอบในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมที่จะถึงนี้ได้ เพื่อครอบคุลมการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ให้แก่ประชาชนได้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ ธนกรยืนยันว่า วัคซีน Sinovac สามารถลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต จาก COVID-19 ได้
ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขได้ออกแถลงว่า ประเทศไทยจะมีการปรับเปลี่ยนสูตรการฉีดวัคซีนไขว้ ให้มีสูตร AstraZeneca เข็มที่ 1 ตามด้วยวัคซีน Pfizer ในเข็มที่ 2 โดยจะฉีดห่างระหว่างโดสประมาณ 4-12 สัปดาห์
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป สูตรฉีดไขว้ AstraZeneca+Pfizer ใหม่นี้ จะถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังได้ยืนยันอีกว่า ตั้งแต่หลังเดือนตุลาคม ไทยจะไม่มีการสั่งซื้อ Sinovac มาเพิ่มแล้ว จึงน่าจับตาว่า Sinovac ล็อตนี้ จะเป็นล็อตสุดท้ายตามที่กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าจะไม่มีการจัดซื้อเพิ่มอีกหรือไม่
อ้างอิงจาก
https://thematter.co/brief/154148/154148
#Brief #TheMATTER