เว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เปิดเผยรายงานผลการรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือกฎหมายคุมเหล้าฉบับใหม่ ที่เปิดรับฟังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง 35 หน่วยงาน และเปิดรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ ระหว่างวันที่ 25 มิ.ย. – 9 ก.ค.2564 http://alcoholact.ddc.moph.go.th/ ที่มีผู้มาร่วมแสดงความเห็นมากถึง 88,958 คน
ร่างกฎหมายคุมเหล้าใหม่ของ สธ.ดังกล่าว จะแก้ไขกฎหมายคุมเหล้าเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2551 ในหลายประเด็น รวมถึง ‘มาตรา 32’ การห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงหลายปีหลัง ทั้งเนื้อหาคลุมเครือเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจมาก, อัตราโทษสูงเกินไป จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, การเปิดช่องให้จ่ายค่าปรับเพื่อจบเรื่องโดยไม่ต้องไปพิสูจน์ความถูกผิดในศาล ,เจ้าหน้าที่ได้รับส่วนแบ่งเงินรางวัลสูงถึง 45-60% ของค่าปรับเป็นแรงจูงใจให้ใช้กฎหมายนี้มากๆ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายคุมเหล้าฉบับของ สธ. ไม่เพียงแค่ปรับย่อหน้าถ้อยคำในมาตรา 32 เดิม ยังเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกั บ ‘การห้ามโฆษณา’ เป็นมาตรา 32/1 – 32/4 โดยมีสาระโดยสรุปดังนี้
- มาตรา 32/1 ห้ามแสดงชื่อ/เครื่องหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยอวดอ้างสรรพคุณชักจูงใจให้ดื่ม
- มาตรา 32/2 ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือนำชื่อ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาต่อเติมหรือดัดแปลง ในลักษณะที่เข้าใจได้ว่าหมายถึงการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- มาตรา 32/3 ห้ามอุปภัมภ์หรือสนับสนุนบุคคล/กลุ่มบุคคล/หน่วยงาน ดำเนินกิจกรรมต่างๆ 5 อย่าง อาทิ สร้างภาพลักษณ์ต่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ส่งผลเสียต่อนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ส่งเสริมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ
- มาตรา 32/4 ห้ามเผยแพร่ข่าวสารเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมตามมาตรา 32/3
ทั้งนี้ ความเห็นต่อการแก้ไขมาตรา 32 จะปรากฎอยู่ในรายงานผลการรับฟังความคิดเห็น ระหว่างหน้าที่ 48-55 ฝ่ายที่ ‘เห็นด้วย’ กับการแก้ไขเพิ่มข้อห้ามดังกล่าว หลักๆ คือส่วนราชการ กับภาคประชาสังคม
ส่วนฝ่ายที่ ‘ไม่เห็นด้วย’ มีทั้งภาคเอกชนที่เห็นว่าเนื้อหาบางส่วนเขียนกว้างไป, สมาคมผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอลฮอล์ที่เห็นว่า ขัดรัฐธรรมนูญเรื่องเสรีภาพในการประกอบอาชีพกับไม่ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ, นักวิชาการที่เห็นว่า กระทบต่อสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป, ผู้ประกอบการเห็นว่า เนื้อหาที่เขียนมาคลุมเครือไม่ชัดเจน, ประชาชนทั่วไปมีความเห็นคัดค้านสรุปได้มากถึง 33 ข้อ กระทั่งหน่วยงานราชการบางแห่งก็ยังคัดค้าน เช่น สำนักงานศาลยุติธรรมที่มองว่าควรห้ามโฆษณาบางสถานที่เท่านั้น (เช่น ในสถานที่ราชการหรือในสถาบันการศึกษา) หรือกรมสรรพสามิตที่มองว่าอาจเกิดปัญหาในการบังคับใช้ เพราะพิสูจน์เรื่องเจตนาโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยาก เป็นต้น
- ดูรายงานดังกล่าวฉบับเต็มได้ที่: http://alcoholact.ddc.moph.go.th/act/file/report_result.pdf
นพ.พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ รองผู้อำนวยการและหัวหน้ากลุ่มนายแพทย์เชี่ยวชาญ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวกับ The MATTER ว่า หลังจากรับฟังความเห็นและเผยแพร่ผลการรับฟังความเห็นต่อสาธารณะแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือนำความเห็นดังกล่าวไปปรับปรุงแก้ไขร่างกฎหมายคุมเหล้าฉบับ สธ. แล้วส่งให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติพิจารณา หากผ่านก็จะส่งให้ รมว.สาธารณสุขลงนาม เพื่อส่งเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถ้าได้รับความเห็นชอบก็จะส่งให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป
ถามว่าการที่มีคนคัดค้านเรื่องการแก้ไขมาตรา 32 จำนวนมาก จะต้องแก้ตามเสียงคัดค้าน ซึ่งบางส่วนเสนอให้ยกเลิกการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปเลยหรือไม่ นพ.พงศ์ธรกล่าวว่า เราก็ต้องนำความเห็นต่างๆ มาพิจารณาด้วย แต่ในทางวิชาการ องค์การอนามัยโลก (WHO) เคยแนะนำว่า การห้ามโฆษณาเป็นหนึ่งในมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้ผลที่สุด จึงต้องพิจารณาหลายๆ เหตุผลประกอบกันไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากร่างกฎหมายคุมเหล้าฉบับ สธ. ที่เพิ่งผ่านการรับฟังความเห็นแล้ว ปัจจุบันยังมีร่างกฎหมายคุมเหล้าฉบับที่ประชาชนมากกว่า 1 หมื่นรายชื่อเสนอ ที่ผ่านการรับฟังความเห็นเช่นกัน (มีผู้มาร่วมแสดงความเห็น 26,225 คน พร้อมกับอีก 8 หน่วยงาน) และอยู่ระหว่างรอบรรจุวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://thematter.co/quick-bite/anti-alcohol-law-edit/147854
https://thematter.co/brief/148488/148488
https://thematter.co/quick-bite/reward-alcohol-ads-act/148623
http://alcoholact.ddc.moph.go.th/act/
https://www.parliament.go.th/section77/manage/files/file_20211208100656_2_146.pdf
#Brief #TheMATTER