เชื่อว่าหลายๆ คนคงชื่นชอบการกินเฟรนช์ฟรายส์ เพราะมันเป็นอาหารที่กินง่าย แถมยังอร่อยอีกด้วย ทำให้มันมักจะถูกเสิร์ฟคู่กับอาหารบางชนิดเสมออย่างแฮมเบอร์เกอร์ สเต็ก แต่ล่าสุดผลการวิจัยหนึ่งระบุว่า เฟรนช์ฟรายส์ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพจิตได้
ทีมวิจัยในเมืองหางโจว ประเทศจีนพบว่า การบริโภคอาหารทอดบ่อยๆ โดยเฉพาะเฟรนช์ฟรายส์ มีความเสี่ยงสูงต่อโรควิตกกังวลถึง 12 เปอร์เซ็นต์ และภาวะซึมเศร้าสูงกว่าคนที่ไม่กินอาหารทอดถึง 7 เปอร์เซ็นต์
ไม่เพียงเท่านี้ อาหารทอดยังเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง และส่งผลเสียต่อสุขภาพอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น ผลการวิจัยในครั้งนี้ ก็ถือเป็นการเพิ่มความสำคัญว่า ทำไมผู้คนถึงจำเป็นต้องลดการกินอาหารทอดให้น้อยลง
แล้วทำไมเฟรนช์ฟรายส์ถึงส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตมากที่สุดในบรรดาของทอดอื่นๆ?
คำตอบก็คือ เพราะอะคริลาไมด์ (Acrylamide) ซึ่งเป็นสารเคมีที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการทอด โดยจะเกิดขึ้นมากที่สุดในเฟรนช์ฟรายส์ เพราะว่ามันทำมาจากมันฝรั่ง “มันฝรั่งทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น รวมถึงส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนบางชนิดที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตโดยตรง ซึ่งพอเรานำมันฝรั่งมาทอดด้วยน้ำมัน ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก” วอลเตอร์ วิลเล็ต (Walter Willett) ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาและโภชนาการแห่งฮาวาร์ดกล่าว
อย่างไรก็ดี เขาระบุเสริมว่า สารเคมีอะคริลาไมด์ไม่ได้เกิดจากการทอดเท่านั้น แต่มันยังถูกพบในกาแฟและขนมปังปิ้งอีกด้วย ซึ่งมันจะเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟและการปิ้งขนมปัง เพราะการให้ความร้อนกับคาร์โบไฮเดรตร่วมกับโปรตีน ก็ส่งผลให้เกิดสารเคมีชนิดนี้ขึ้นเช่นกัน
หยู จาง (Yu Zhang) นักวิจัยมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงกล่าวว่า “ผมไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนกเกี่ยวกับผลเสียของอาหารทอดจนเกินไป แต่ทั้งนี้ ถ้าอยากมีทั้งสุขภาพจิตและกายที่ดี การลดกินอาหารทอดให้น้อยที่สุดก็ถือเป็นทางเลือกที่สำคัญ”
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาด้านโภชนาการกล่าวว่า ผลลัพธ์จากงานวิจัยนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น และอาหารทอดก็ถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าและโรควิตกกังวลเท่านั้น ไม่ใช่สาเหตุหลักโดยตรง รวมทั้งไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่มีอาการเหล่านี้จะกินอาหารทอดไม่ได้เลย
อ้างอิงจาก
#เฟรนช์ฟรายส์ #ของทอด #Fastfood #สุขภาพจิต #TheMATTER