“เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมไม่รอให้รัฐบาลหน้าตัดสินใจ”
คำถามจากจาตุรนต์ ฉายแสง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำพรรคเพื่อไทย หลังมีข่าวว่า ‘ดอน ปรมัตถ์วินัย’ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เชิญรัฐบาลทหารเมียนมา เข้าประชุมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ
แม้จะอยู่ในฐานะรัฐบาลรักษาการ แต่สำนักข่าว Reuters เปิดรายงานพิเศษ ระบุว่า ดอนได้ส่งจดหมายเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของชาติในอาเซียน เพื่อเข้าร่วมประชุมอย่างไม่เป็นทางการ หารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพในเมียนมา ซึ่งหนึ่งในนั้น มีรัฐมนตรีของเมียนมาได้รับเชิญด้วย
ในจดหมายลงวันที่ 14 มิถุนายน ดอนได้เสนอให้ “กลับมาสร้างการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่” (“fully re-engage”) กับรัฐบาลทหารเมียนมา และเสนอให้มีการประชุม ซึ่งมีกำหนดวันนี้และพรุ่งนี้ (18-19 มิถุนายน) เป็น “ส่วนหนึ่งของบันไดขั้นแรก” (“part of the initial steps”) ของกระบวนการสร้างสันติภาพ
ทางด้านประเทศที่ได้รับเชิญ Reuters อ้างอิงแหล่งข่าว 3 แหล่ง ระบุว่า อินโดนีเซียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ซึ่งมีแหล่งข่าวให้เหตุผลว่า เป็นเพราะการประชุมที่จะจัดขึ้นโดยไทยนั้น ขัดแย้งกับข้อตกลงในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 42 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ วิเวียน บาลากริซนัน (Vivian Balakrishnan) ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า เนื่องจากสถานการณ์ในเมียนมายังไม่มีพัฒนาการใดๆ “ก็จะเป็นการชิงสุกก่อนห่ามที่จะกลับมาสร้างการมีส่วนร่วมกับคณะรัฐประหารในระดับของการประชุมสุดยอดผู้นำ หรือแม้แต่ระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ”
ความเคลื่อนไหวนี้ของดอน เรียกได้ว่า ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทุกทิศทาง
อาทิ จาตุรนต์ ฉายแสง ทวีตเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ระบุว่า “การดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างที่กำลังทำอยู่นี้เป็นเรื่องที่ผูกพันไปข้างหน้า เป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย เป็นภาระของคนไทยทั้งประเทศ รัฐบาลรักษาการจึงไม่ควรทำไปอย่างไร้ความรับผิดชอบ
“รมว.ต่างประเทศควรจะรู้ขนบธรรมเนียมในเรื่องนี้ดีกว่าใคร แต่กลับไม่รู้แม้แต่มารยาทเบื้องต้นได้อย่างไร” จาตุรนต์ถามต่อมา
เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสต์บนเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน แสดงความเห็นว่า การริเริ่มเรื่องดังกล่าวในช่วงรัฐบาลรักษาการเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะจะกระทบกับนโยบายการต่างประเทศที่ผูกพันกับไทยในอนาคต ดอนจึงควรยุติบทบาทใดๆ ในช่วงรักษาการทันที
ขณะที่ ฟิล โรเบิร์ตสัน (Phil Robertson) รองผู้อำนวยการฝ่ายเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) ทวีตเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน บอกว่า จดหมายของดอน ที่พยายามหารือกับคณะรัฐประหารเมียนมา ซึ่ง “มือเปื้อนเลือดด้วยอาชญากรรมต่อมนุษยชาติรายวัน ที่กระทำต่อชาวเมียนมา” นั้น เป็นสิ่งที่ “หยิ่งยโส และผิดศีลธรรม”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไทยดำเนินนโยบายในลักษณะนี้
วันที่ 22 ธันวาคม 2565 ดอนเคยเป็นเจ้าภาพการหารือไม่เป็นทางการ เกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมามาแล้วครั้งหนึ่ง โดยได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาให้เข้าร่วมด้วย ทำให้มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และบรูไน ไม่มาประชุม แม้จะได้รับเชิญ
ขณะนั้น Reuters รายงาน อ้างอิงจดหมายจากกระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ ถึงไทย ระบุว่า สาเหตุที่สิงคโปร์ไม่เข้าร่วมนั้น เป็นเพราะอาเซียนเคยตกลงกันมาก่อนแล้ว ว่าจะไม่ให้รัฐบาลทหารเมียนมาเข้าร่วมการประชุมใดๆ ภายใต้อาเซียน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ
อ้างอิงจาก