‘มอรมอน (Mormon)’ กำลังเป็นที่กล่าวถึงในประเทศไทย หลัง ‘พระวิหารกรุงเทพ’ โบสถ์สีขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณ MRT เพชรบุรี กำลังเปิดให้คนทั่วไปได้เยี่ยมชม
แล้วมอรมอนมีประวัติความเป็นมาอย่างไร? วันนี้ (4 กันยายน) The MATTER จึงสรุปมาให้ได้อ่านกัน
ก่อนจะเล่าถึงประวัติความเป็นมา ก็ต้องอธิบายกันก่อนว่ามอรมอน คือคำที่ใช้นิยามหรืออธิบายความเชื่อของ ‘สมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints)’ โดยมอรมอนนิยามตัวเองว่าเป็น ‘คริสเตียนผู้มีใจศรัทธา’ เพื่อแสดงความศรัทธาของพวกเขาต่อพระเยซูคริสต์
ส่วนคำสอนของมอรมอน จะเป็นการอธิบายหลักคำสอนของศาสนจักรที่กลับคืนสู่โลกผ่านศาสดาพยากรณ์ (prophet) ‘โจเซฟ สมิธ (Joseph Smith)’
มอร์มอน นิยามคุณค่าของความเชื่อตัวเองว่า “เป็นการฟื้นฟูคริสตศาสนาพันธสัญญาใหม่ตามที่พระเยซูและอัครสาวกของพระองค์สอน”
แล้วมอรมอนเกิดขึ้นมาได้อย่างไร นั่นก็จะต้องเริ่มเล่าประวัติของ สมิธ ผู้ก่อตั้ง ซึ่งเกิดวันที่ 23 ธันวาคม 1805
เมื่อครั้นเขายังอายุ 14 ปี สมิธกล่าวว่า เขาได้รับนิมิตจากพระเจ้าที่กล่าวว่าไม่ให้เข้าร่วมนิกายคริสเตียน
3 ปีต่อมา สมิธก็ได้เจอกับ โมโรไน (Moroni) ทูตสวรรค์ที่ออกมาปรากฏกายต่อหน้าเขา พร้อมกับบอกว่าเขาได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้แปลหนังสือมอร์มอน (Book of Mormon) พระคำภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ที่เขียนขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ซึ่งชื่อดังกล่าวก็มีที่มาจากนามของพ่อโมโรไนที่ชื่อว่ามอร์มอน
ในพระคำภีร์ดังกล่าวนี้ มีคำสอนเกี่ยวกับคนที่อาศัยอยู่ในอเมริกาตั้งแต่อดีต เป็นบันทึกทางศาสนาของผู้คนสามกลุ่มซึ่งย้ายถิ่นฐานจากโลกเก่าไปยังทวีปอเมริกา บันทึกเหตุการณ์ที่พระเยซูคริสต์เสด็จเยือนผู้คนในทวีปอเมริกาหลังการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ 200 ปีในยุคสมัยแห่งสันติสุขตามมาหลังการเสด็จเยือนของพระคริสต์
สมิธยังกล่าวอีกว่า คำสอนดังกล่าว ถูกจารึกไว้บนแผ่นทองคำใกล้เมืองปาล์มไมรา รัฐนิวยอร์ก ซึ่งอยู่ใกล้กับที่อยู่เขาในขณะนั้น โดยแผ่นจารึกดังกล่าวได้ปรากฏต่อหน้าเขาเมื่อวันที่ 22 กันยายน 1823 แต่เขาก็ไม่สามารถนำจารึกนั้นกลับมาได้จนกระทั่งช่วงกันยายน 1827 นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้จารึกดังกล่าวได้รับการแปลและเผยแพร่ในปี 1830
สมิธยังระบุอีกว่า นักบุญยอห์น บัปติสต์ (John the Baptist) ยังเคยปรากฏกายต่อหน้าเขาในตอนที่กำลังแปลพระคัมภีร์อยู่ พร้อมยังสั่งให้เขาฟื้นฟูคริสตจักรด้วยการประกาศคำสอนหรือเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ที่แท้จริง
“ข้าพเจ้าบอกบรรดาพี่น้องชายว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นหนังสือที่ถูกต้องยิ่งกว่าหนังสือใดๆ บนแผ่นดินโลก และเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา และมนุษย์จะเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นโดยการยึดมั่นกับหลักการของหนังสือเล่มนี้ ยิ่งกว่าหนังสือเล่มอื่นใด” สมิธกล่าว
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน มอรมอนยังไม่ได้รับการรับรองให้เป็นนิกายของศาสนาคริสต์อย่างเป็นทางการ และแม้ว่ามอรมอนจะนิยามตัวเองว่าเป็นคริสเตียน แต่ก็มีรายงานว่าคริสเตียนหลายคนไม่ยอมรับว่ามอรมอนเป็นคริสเตียน
อ้างอิงจาก
