ช่วงนี้เน็ตอืดขึ้นหรือเปล่านะ?
วันนี้ (15 ธันวาคม) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเปิดเผยผลสำรวจระบุ ผู้บริโภคพบปัญหา สัญญาณอินเทอร์เน็ตช้า, สัญญาณหลุดบ่อย, โปรโมชั่นแพงขึ้น, แพ็กเกจราคาเท่ากันหมด, และ call center โทรติดยาก หลัง TRUE-DTAC ควบรวม พร้อมเสนอให้ กสทช.ยกเลิกการควบรวมกิจการ
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และหน่วยงานประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ทำแบบสำรวจผลกระทบของผู้บริโภคกรณีที่ TRUE-DTAC ควบรวมธุรกิจไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้ร่วมทำแบบสำรวจผ่าน google form ตั้งแต่วันที่ 9-23 พฤศจิกายน ทั้งสิ้น 2,924 ราย
การสำรวจพบ 81% ระบุว่าเจอปัญหา สัญญาณอินเทอร์เน็ตช้า, สัญญาณหลุดบ่อย, โปรโมชั่นเดิมหมดทำให้ต้องใช้โปรโมชั่นใหม่ที่แพงขึ้น, แพ็กเกจมีราคาเท่ากันหมดทำให้ไม่มีทางเลือก, และ call center โทรติดยาก
ดังนั้น ผู้บริโภคที่ตอบแบบสำรวจมีข้อเสนอแนะต่อ กสทช.ว่าอยากให้พิจารณายกเลิกการควบรวม เพราะเรื่องที่เกิด สะท้อนปัญหาการผู้ขาด ทำให้ผู้ใช้บริการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสินค้าและบริการ
อีกทั้ง ผู้บริโภคยังต้องการให้ กสทช.นึกถึงประโยชน์เพื่อประชาชนเป็นที่ตั้ง “อย่าเป็นแค่เสือกระดาษ ต้องจริงใจ-จริงจัง กำหนดบทลงโทษที่เข้มแข็งจัดการผู้ประกอบการที่เอาเปรียบผู้บริโภค อย่างทันท่วงที”
รวมถึง ผู้บริโภคยังต้องการให้ กสทช.ควบคุม ตรวจสอบราคา คุณภาพการให้บริการ และยังต้องการให้มีการกำกับดูแลผู้ประกอบการให้ทำตามข้อตกลงอีกเช่นกัน
นอกจากนี้ ผู้บริโภคที่ตอบแบบสำรวจยังมีข้อเสนอไปยังผู้ให้บริการอีกว่า อยากให้ปรับปรุงคุณภาพสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ดีกว่าเดิม หรือให้ดีเท่าช่วงก่อนควบรวมกิจการ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เสถียร และในเมื่อ TRUE-DTAC ควบรวมกันแล้ว ก็ควรจะต้องติดเสาสัญญาณในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้ครอบคลุมจุดรับสัญญาณ
ผู้บริโภคยังต้องการให้ผู้ให้บริการลดราคาแพ็กเกจโดยทันที เพราะเป็นเงื่อนไขการควบรวม TRUE- DTAC ที่พ่วงมากับมติ กสทช. เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565
อีกประเด็นของปัญหาที่ผู้บริโภคพบก็คือ ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือปรับแพ็กเกจตามอำเภอใจโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า “ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา ต้องให้บริการตามเงื่อนไขที่ลูกค้าซื้อแพ็กเกจเท่านั้น หากมีเหตุขัดข้องที่เป็นความผิดพลาดของผู้ประกอบการ ต้องชดเชยอย่างเหมาะสมให้กับลูกค้า ที่สำคัญต้องใส่ใจดูแลปัญหาอย่างทันท่วงที ด้วยการมีเจ้าหน้าที่ call center ที่เป็นมนุษย์อย่างเพียงพอตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ใช่ ใช้ AI อย่างทุกวันนี้” มูลนิธิเพื่อผู้บริโภครายงาน
สำหรับผลสำรวจดังกล่าว ทางมูลนิธิระบุว่าจะนำไปเสนอต่อผู้ให้บริการและกสทช. เพื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคต่อไป
อ่านผลสำรวจได้ที่: ffcthailand.org