“ทรัพยากรจำนวนมากของเรา พุ่งเป้าไปที่คนที่ถูกโน้มน้าวได้…พวกเราถล่มเนื้อหาเหล่านี้ใส่พวกเขา ผ่านบล็อก เว็บไซต์ วิดีโอ โฆษณา ทุกแพลตฟอร์มที่คุณพอจะนึกออก จนกว่าพวกเขาจะเห็นโลกในแบบที่พวกเราอยากให้เห็น” บริตทานี ไคเซอร์ อดีตผู้อำนวยการ Cambridge Analytica
ข้อความข้างต้นคือสิ่งที่สารคดีเรื่อง The Great Hack พยายามชวนให้เราตั้งคำถามและคิดกันอีกครั้งหนึ่งว่า ชีวิตในโลกโซเชียลมีเดียของเราในแต่ละวันนั้น อาจจะตกอยู่ใต้อิทธิพลของ ‘ข้อมูล’ ที่เข้ามามีอิทธิพลต่อความคิด ความเชื่อ กระทั่งอาจรวมไปถึงพฤติกรรมในทางการเมือง
The Great Hack เป็นสารคดีที่พาเราไปดูถึงคดีอื้อฉาวที่ยิ่งใหญ่ในวงการเทคโนโลยีเมื่อปีที่แล้วอย่าง Cambridge Analytica ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 87 ล้านบัญชี และนำไปใช้เพื่อทำแคมเปญหาเสียงให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกชิงประธานาธิบดีเมื่อช่วงปี 2016
สารคดีเล่าผ่านมุมของทั้งอดีตคนที่เคยทำงานใน Cambridge Analytica ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่บริษัทเคยทำ โดยเฉพาะวิธีการรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของคนใช้เฟซบุ๊ก และวิธีนำมันไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง หรือที่ระบุไว้ข้างต้นก็คือส่งคอนเทนต์ต่างๆ ไปให้ถึงเป้าหมายที่ถูกโน้มน้าวได้ง่าย
อีกคนหนึ่งที่มีบทบาทในสารคดีนี้คือ เดวิด คาร์โรล นักวิชาการที่ฟ้องร้อง Cambridge Analytica ให้บริษัทต้องเปิดเผยออกมาว่า รู้ข้อมูลส่วนตัวของเขาในเรื่องอะไร และนำไปใช้ในวิธีการไหนบ้าง โดยสารคดีเล่าถึงเส้นทางและเหตุผลในการฟ้องร้องของคาร์โรลตั้งแต่ช่วงต้น
คำถามคือทำไมคดีนี้ถึงสำคัญ? แม้มันจะเป็นคดีที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ แต่เราก็ปฏิเสธได้ยากเหมือนกันว่า ทุกวันนี้ ‘ข้อมูล’ ที่เราทิ้งเอาไว้ไม่ว่าตั้งใจ รู้ตัว หรือไม่รู้ตัวลงในโซเชียลมีเดีย (โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก) มันไม่ได้นอนอย่างนิ่งเฉยหรือหยุดอยู่กับที่ หากแต่มันถูกส่งต่อไปยังบริษัทอื่นๆ ที่พร้อมจะซื้อข้อมูลเหล่านั้น เพื่อส่งเนื้อหาอะไรบางอย่างกลับมายังตัวเรา
The Great Hack พาเราไปสำรวจทั้งที่มาที่ไปของคดี Cambridge Analytica ที่สั่นสะเทือนเฟซบุ๊กมากที่สุด (จนนำไปสู่การเสียค่าปรับในคดีข้อมูลส่วนบุคคลที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ตามข่าวที่เพิ่งออกมาเมื่อหลายวันก่อน) รวมไปถึง ช่วยให้เราเข้าใจถึงด้านที่ไม่ค่อยสวยงามนักในโซเชียลมีเดีย และความสำคัญของการรู้เท่าทันโลกดิจิทัล ที่เรียกกันว่า Digital Literacy
Karim Amer ผู้กำกับสารคดีเรื่องนี้ บอกกับ BBC ว่าเราอาจจะต้องเปรียบเทียบข้อมูลส่วนตัวของเราในโลกดิจิทัลว่าเป็น ‘virtual voodoo doll’ ที่มันสะท้อนได้ถึงตัวตนของเราได้แทบค่อนข้างชัดเจน
“ทุกโมเมนต์ของวันนี้และทุกๆ วัน มันคือการปรับไปมาระหว่าง สิ่งที่คุณเป็นจริงๆ กับสิ่งที่อัลกอริทึมคิดว่าคุณต้องการ
“สาเหตุที่ voodoo doll มันมีประสิทธิภาพ ก็เพราะตัวคุณเองก็ได้ทิ้งรอยเท้าในโลกดิจิทัลไว้อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง” ผู้กำกับ ระบุ
สารคดีเรื่องนี้ฉายแล้วใน NETFLIX
อ้างอิงจาก
https://www.wired.com/story/the-great-hack-documentary/
https://www.vox.com/culture/2019/7/25/8930283/great-hack-review-netflix-facebook-cambridge-analytica
https://www.bbc.com/news/newsbeat-49085306
https://thematter.co/brief/recap/recap-1564056001/81475
#Brief #TheMATTER