ทุกช่วงหนึ่งในรอบปี เราจะได้เห็นภาพยนตร์ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน มาเข้าฉายในโรงหนังบ้านเรา แฟนการ์ตูนเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กเด็กประถม หรือรุ่นใหญ่เกินสามสิบไปแล้วก็มักตื่นเต้นที่พวกเขาจะได้มีโอกาสได้รับชมการผจญภัยของนักสืบน้อยที่ไม่คืนร่างเสียที กับสภาพฟิสิกส์สุดล้ำ เนื้อหาเร้าใจคนดู แบบไม่ซ้ำกับฉบับหนังสือการ์ตูนหรืออนิเมชั่นแบบทีวีซีรีส์
และที่ทำให้ ทั้งแฟนโคนัน หรือคนทั่วไปต้องรู้สึกสะดุดตาสะดุดใจก็คือการเปิดตัวครั้งแรกของ คาเฟ่ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ในประเทศไทย ซึ่งมาจัดกันเต็มรูปแบบที่ร้าน Bake A Wish สาขาสยามเซ็นเตอร์ โดยมีทาง PARCO กลุ่มบริษัทบริหารศูนย์การค้าระดับข้ามชาติของญี่ปุ่น เป็นผู้ดูแลบรรยากาศและของที่ขายในร้านอีกทีหนึ่ง
คาเฟ่ธีมการ์ตูน อาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่มากในญี่ปุ่น หรือแม้แต่บ้านเราที่มีร้านคาเฟ่ธีมการ์ตูนให้บริการ รวมถึงมีคาเฟ่ชั่วคราว ที่แวะมาเปิดอย่ช่วงหนึ่งอย่าง One Piece Pop-Up Cafe เป็นอาทิ และหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมคาเฟ่การ์ตูนถึงไม่ได้เปิดบริการแบบยาวๆ จนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปเลย
อย่างแรกก็คือร้านอาหารนั้นต้องใช้ทักษะความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำอาหารโดยตรง ซึ่งแตกต่างจากงานหลักของบริษัทลิขสิทธิ์การ์ตูนหรือตัวละครที่ทำงานในเชิงดูแลการขายลิขสิทธิ์ตัวละครเป็นหลัก ซึ่งหากเปิดร้านแบบกึ่งถาวร ก็ต้องลุ้นกันว่าเมื่อการ์ตูนหรือตัวละครดังกล่าวหมดกระแสไปร้านจะยังได้รับความนิยมอยู่เช่นเดิมหรือไม่ คาเฟ่การ์ตูนส่วนมากเราจะเห็นข่าวเปิดทำการในประเทศญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่เป็นการเปิดระยะสั้นในฐานะอุปกรณ์ทางการตลาดที่ใช้สำหรับการโปรโมตการ์ตูนเรื่องที่ดังในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ของในร้านสไตล์นี้ก็จะมีราคาแรงกว่าร้านอาหารทั่วไป เพราะในคาเฟ่การ์ตูนแบบนี้มักมีของแถมพ่วงมาด้วย
มีคาเฟ่การ์ตูนหลายร้านที่เปิดทำการเป็นหลักแหล่ง และตัวละครที่เป็นธีมของร้านเหล่านั้นก็เป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมเหนือกาลเวลาระดับหนึ่ง จึงทำให้เราเห็นคาเฟ่การ์ตูนหลายแห่งเปิดให้บริการทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ซึ่งเราจะมาพูดถึงบางส่วนของร้านสไตล์นั้นกัน
Detective Conan Cafe in Bangkok, Thailand
สยามเซ็นเตอร์
คาเฟ่ธีมการ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ที่มาเปิดแบบชั่วคราวในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ตัวร้านเปิดบริการในช่วงที่ภาพยนตร์ภาค ‘ปฏิบัตการสายลับเดอะซีโร่’ เข้าฉาย ตัวร้านจึงเน้นตัวละครเด่นในภาคอย่าง โคนัน กับ อามุโระ เยอะสักหน่อย ตัวเมนูอาหารอาจแม้จะยกมาไม่มากแต่ก็ชัดเจนว่ามาจากเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน แน่ๆ อย่างเช่น ข้าวราดแกงกะหรี่ที่จัดข้าวเป็นทรงยา APTX-4869 หรือชุดของหวานที่มีชูครีมรสอัลมอนด์เป็นตัวเด่น ณ ตอนที่เขียนบทความนี้ ก็เห็นว่าแฟนโคนันต้องเข้าคิวกันยาวเป็นชั่วโมงแล้ว ใครที่เล็งว่าจะไป ควรรีบเดินทางไปกันแต่เนิ่นๆ นะ
Hello Kitty House Bangkok, Thailand
สยามแควร์วัน
‘เฮลโหล คิตตี้’ คือเด็กสาวที่มีรูปลักษณ์แบบแมวญี่ปุ่น ตัวละครจากทาง Sanrio ตัวนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกจากความน่ารักสดใสของเธอและร้านคาเฟ่ของตัวละครตัวนี้มาเปิดตัวในไทยตั้งแต่ปี 2014 ในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร นอกจากเครื่องดื่มและของกินที่แต่งแต้มรูปร่างด้วยสไตล์ตัวละคร เฮลโหล คิตตี้ แล้วก็ยังมีของที่ระลึกลายหลายรูปแบบวางจำหน่ายด้วย เรียกได้ว่าถ้าเป็นแฟนของตัวละครตัวนี้ก็น่าจะลองแวะเวียนไปสักครั้งหนึ่ง
Moomin Cafe, Thailand
สยามเซ็นเตอร์ และ เมกาบางนา
โทรลตัวขาว ได้ยกครอบครัวกับผองเพื่อนจากฟินแลนด์ มาเปิดคาเฟ่ในบ้านเราถึงสองสาขา นั่นคือที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ กับที่ชั้น L1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา ซึ่งภายในร้านรายล้อมไปด้วยตุ๊กตาพลพรรคโทรลพร้อมกับเมนูอาหารที่จัดแสดงออกมาน่ารัก น่าชม ชวนถ่ายรูป แล้วถ้าอยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงสมาชิกครอบครัวมูมินที่บ้าน ทางร้านก็มีมุมของฝากเล็กๆ รอคุณอยู่
Charlie Brown Cafe, Thailand
เอ็มบีเค และ เดอะ สตรีท รัชดา
หลายคนเห็นชื่อก็นึกออกว่านี่เป็นร้านของการ์ตูนเรื่องไหน แต่หลายคนอาจจะงงๆ สักหน่อย แต่ถ้าบอกว่าร้านนี้คือคาเฟ่สนูปปี้น่าจะร้องอ๋อขึ้นมาในใจ แน่นอนว่าในร้านมีทั้งของคาวและของหวาน ที่แต่งแต้มด้วยความเป็น Peanuts (ชื่อจริงๆ ของการ์ตูนที่มี ชาร์ลี บราวน์ กับ สนูปปี้ เป็นตัวละครหลัก) ที่สะดุดตาจนเผลอคิดว่าไม่ใช่ของกินก็คงจะเป็นถ้วยไอศกรีมที่มีลวดลายของแพ็คเกจจิ้งเป็นตัวละครหลายตัวที่น่ารักสดในจนเผลอคิดว่าไม่ใช่ของกินเสียอีก แน่นอนว่าของใช้ของสะสมก็มีขายในร้านด้วยเช่นกัน ตัวร้านตอนนี้มีสองสาขา ที่หนึ่งอยู่บนชั้น 7 ของ เอ็มบีเค ใจกลางกรุงเทพที่เป็นร้านเล็กๆ เน้นไปนั่งกินอาหาร อีกที่หนึ่งอยู่ที่ชั้น 3 เดอะ สตรีท รัชดา ที่จัดพื้นที่คล้ายๆ สนามเด็กเล่นของเด็กๆ ในการ์ตูน รวมถึงมีของที่ระลึกให้รับชมรับซื้ออยู่มากมาย
Paul Frank Cafe, Thailand
เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
ถ้าเทียบกับตัวละครอื่นๆ ในลิสต์ที่พูดถึงวันนี้ ลิงปากแดงอย่าง Julius ของ Paul Frank อาจโลดแล่นในฐานะ ‘การ์ตูน’ น้อยเสียหน่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวละคร Julius กับผองเพื่อนได้รับความนิยมจากแฟนๆ อยู่มากโข เลยไม่แปลกที่จะมีคาเฟ่ของ Paul Frank มาเปิดบริการในบ้านเราด้วย โดยตัวร้านจัดเป็นคาเฟ่แนวโมเดิร์นเปิดโล่ง แล้วมี Julius มาเป็นตัวละครประดับของกินเสียมากกว่า โดยเฉพาะวาฟเฟิลหน้า Julius ที่เปิดโอกาสให้ผู้กินได้บีบแยมตกแต่งหน้าตาของ Julius ที่เราเห็นหลายๆ คนถ่ายรูปรีวิวอยู่บ่อยครั้ง
May’s Garden House Restaurant, Thailand
ซอยสุขุมวิท 29
ราวช่วงหลังสงกรานต์ของปี 2018 ร้านอาหารแห่งหนึ่งได้เปิดตัวพร้อมสร้างความเซอร์ไพรส์ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นข่าวดังทั่วโลก เพราะร้านอาหารแห่งหนึ่งในไทยได้เปิดร้านอาหารที่ใช้ธีมของเรื่อง ‘โทโทโร่ เพื่อนรัก’ และทางร้านได้ประกาศชัดว่าได้รับการรับรองลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องจากทางสตูดิโอจิบลิ จาก ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องดังกล่าวด้วย ณ ช่วงแรกที่ร้านเปิดตัวแบบ Soft Opening นั้นก็ยังไม่มีจุดเด่นอะไรมากนักนอกจาก ตุ๊กตาโทโทโร่ตัวเบ้อเริ่มที่วางอยู่หน้าร้านแต่หลังจากเข้าที่เข้าทางแล้ว ทั้งบรรยากาศและของกินในร้านก็ดูเหมือนอยู่กลางป่าที่น่าจะมีโทโทโร่ซ่อนตัวมากขึ้น
Ultra Heroes Official Shop & Restaurant, Malaysia
ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียก็พอจะมีคาเฟ่หรือร้านอาหารธีมตัวละครสายการ์ตูนอยู่บ้าง เพราะที่นั่นมีร้าน Ultra Heroes Official Shop & Restaurant ที่ขายของตรงตามชื่อร้านเป๊ะๆ ทั้งเสื้อผ้า ของล่น ของสะสม จากซีรีส์อุลตร้าแมน และมีอีกมุมของร้านเป็นร้านอาหารที่มีของกินทั้งคาวหวาน สไตล์ญี่ปุ่นและแบบมาเลเซียให้บริการกันอย่างเต็ม อย่างกาแฟ่แต่งหน้าเป็นอุลตร้าแมนตนต่างๆ หรือข้าวมันไก่ ก็มีให้บริการในร้านนี้ด้วย ท่านที่สนใจไปรับพลังของนักรบแห่งแสง ลองแวะเวียน ห้าง Glo Mall ในเขตดามันซารา ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
Gudetama Cafe, Singapore
เขยิบไปอีกนิดถึงประเทศสิงคโปร์ ที่มีคาเฟ่ธีมการ์ตูนหลายร้าน แต่ร้านที่โดดเด่นเข้าตาเราก็คือ คาเฟ่ของเจ้าไข่ขี้เกียจจาก Sanrio ร้านตกแต่งน่ารักและแทรกความย้วยย้อยของเจ้ากุเดะทามะ ไม่ใช่แค่ในเมนูเท่านั้น แต่เป็นในทุกพื้นที่ของร้าน จนเผลอๆ คนเข้าร้านจะอยากนอนกองแหมะอยู่ในร้านไม่ต้องไปไหนแล้ว นอกจากนั้นทางร้านยังดูขยันจัดธีมตามฤดูกาลอีกด้วย ถ้ามีโอกาสลองแวะไปที่ Temasek Boulevard, Suntec City Mall ประเทศสิงคโปร์ได้ เจ้าไข่หน้ามน นั่งรอนอนรอแฟนๆ อยู่
Pokemon Cafe, Japan
ข้ามไปยังญี่ปุ่น ที่บอกได้ว่าเป็นเจ้าแห่งคาเฟ่ธีมการ์ตูน ก็มีร้านเปิดร้านประจำอยู่หลายร้าน อย่างร้านนี้ที่แฟนๆ ตัวละครในเรื่อง Pokemon บ้านเราอยากให้มาเปิดในไทย แต่ ณ ตอนนี้คุณต้องยอมเดินทางไปยังชั้น 5 ด้านตะวันออกของศูนย์การค้า Takashimaya Nihombashi ตัวร้านมีเหล่าโปเกมอนมากมายนั่งหน้าสลอนต้อนรับลูกค้าอยู่ และเมนูในร้านก็จะถูกจัดแต่งมาในภาชนะทรงโปเกมอน หรือ อาจจะแต่งหน้าตาให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปเกมอน และในร้านก็มีของที่ระลึกเฉพาะกิจของร้านอย่างเช่น แก้วลายโลโก้ร้าน, ตุ๊กตาพิกาจูในชุดเชฟและพนักงานเสิร์ฟ เป็นอาทิ อาหารอาจไม่ทำให้คุณเสียเงินมาก แต่ของที่ระลึกในร้านมันทำให้กระเป๋าเงินเร่าร่ำร้องจะเปย์ขึ้นมาแบบเสียอย่างนั้น
Cafe Mugiwara, Japan
ในไทยเราเคยมีคาเฟ่ธีม One Piece มาเปิดตัวแบบ Pop-Up Store เล็กๆ แล้ว แต่ในญี่ปุ่นนั้นมีร้านคาเฟ่แบบจัดเต็มตั้งอยู่ที่ ชั้น 1F ของ โตเกียวทาวเวอร์ แลนด์มาร์กสำคัญของกรุงโตเกียว ในร้านจัดบรรยากาศ ให้เหมือนกับอยู่ในตัวเรือที่ยั่งชิลได้ โดยที่ฝั่งคาเฟ่จะเน้นไปทางของหวานกับเครื่องดื่มที่จัดมาตามธีมตัวละครในเรื่อง One Piece อย่างเช่น เครื่องดื่ม Fuwa Of The Chopper ที่มีสีชมพูทั้งตัวเครื่องดื่มและครีมและมีเขากวางเสียบจำลองบรรยากาศไว้เป็นอาทิ
ที่จริงแล้วในโตเกียวทาวเวอร์ จัดธีมเป็น One Piece เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ยังมีร้านของกินธีม One Piece อีกสองร้านนั่นก็คือ Sanji No Oresama Restaurant ที่ตั้งอยู่ชั้น 1F เช่นเดียวกับฝั่งคาเฟ่ และ Franky’s Cola Bar ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 4F และแน่นอนว่ามีร้านขายของที่ระลึกขนาดใหญ่ที่สะกิดเรียกให้คุณแวะเวียนเข้าไปเป็นสมาชิกในโลกโจรสลัดสุดอลังการนี้
Ghibli Museum Cafe, Japan
ภายในพิพิธภัณฑ์จิบลิ หรือ Ghibli Museum ซึ่งเราเคยบอกเล่าในบทความเก่าของเรามาแล้ว นอกจากที่จะมีการจำลองพื้นที่ด้านในตามอนิเมชั่นของสตูดิโอจิบลิแล้ว ภายในสถานที่แห่งนี้ ยังมีคาเฟ่ที่จัดเป็นร้านขนาดเล็กๆ อยู่ด้วย ตัวคาเฟ่ตั้งอยู่ที่ชั้นสองของพิพิธภัณฑ์ นั่นหมายความว่าถ้าคุณอยากแวะกินของอร่อยในร้าน ‘คาเฟ่หมวกฟาง’ (Cafe Mugiwara Boshi) คุณจะต้องมาเดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์ด้วยนั่นเอง เมนูที่อยู่ในร้านนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล แต่โดยหลักจะมีเมนูที่หลายคนอยากให้ชิมก็คือแซนด์วิชหมูทอด ชิ้นใหญ่ กับ พาร์เฟ่หมวกฟาง ที่ดูจัดเต็ม แม้การจัดเแต่งอาหารจะธรรมดาไม่ได้ตบแต่งหน้าตาให้ดูมีความเป็นการ์ตูนเท่าร้านอื่นๆ เพราะบรรยากาศรอบข้างนั้นก็เป็นโลกของจิบลิอยู่แล้ว ซึ่งแทบทุกคนบอกกล่าวว่าถ้าอยากไปใช้บริการที่คาเฟ่แห่งนี้ต้องรีบไปสักหน่อย เพราะคิวของร้านนั้นเต็มเร็วระดับที่ว่าแค่ช่วงเที่ยงของวันร้านก็พร้อมจะขึ้นป้ายที่นั่งเต็มแล้ว
Fujiko F. Fujio Museum Cafe, Japan
คาเฟ่ธีมการ์ตูนอีกแห่งที่ซ่อนตัวอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ตัวการ์ตูนก็คือ คาเฟ่ภายในพิพิภัณฑ์ Fujiko F Fujio Museum หรือที่คนไทยเรียกกันง่ายๆ ว่า พิพิธภัณฑ์โดราเอม่อน คาเฟ่ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของพิพิธภัณฑ์ พื้นที่อาจไม่ใหญ่มาก แต่เมนูนั้นถูกรังสรรค์จากอิมเมจตัวการ์ตูนของอาจารย์ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ อย่างเต็มสูบ อย่างเช่นเมนูของคาว อย่าง โดราเอม่อนทาโก้ไรส์ ข้าวพร้อมกับมีทซอสที่จัดทรงเป็นใบหน้าโดราเอม่อน หรือที่เราเห็นคนรีวิวบ่อยๆ ก็จะเป็น เค้กหน้ามูสมะม่วงทรงแว่นตาโนบิตะ ที่จัดจานมาเป็นหน้าโนบิตะ, เคปหน้าโคโรสุเกะ และเครื่องดื่มอย่าง โดราเอม่อนบลู กับ โดรามี่จังเยลโล่ ก็มีหน้าตาเด่นเชิญชวนให้ถ่ายรูปโชว์เพื่อนฝูง หรือถ้าเอาง่ายๆ ก็มีเครื่องดื่มใส่ถ้วยที่มีการวาดลาเต้อาร์ตเป็นตัวละครต่างๆ แบบสุ่มเรื่องด้วย เรียกว่าเน้นสร้างความอินให้กับคนมาเยี่ยมเยียนสุดๆ
Kamen Rider The Diner, Japan
หนังแปลงร่างหรือ โทคุซัทสึ อีกซีรีส์หนึ่งที่หลายคนคุ้นเคยก็คือ มาสก์ไรเดอร์/คาเมนไรเดอร์ ซึ่งมีการเปิดร้านอาหารธีมอย่างเป็นทางการอยู่ที่ญี่ปุ่นเช่นกัน ร้านอาหารดังกล่าวตั้งอยู่บนชั้น 4 ของ Pasela Resorts ย่านอิเคะบุคุระ ของกรุงโตเกียว ตัวร้านอาหารถูกจัดแต่งในลักษณะเหมือนฐานทัพลับขององค์กรช็อคเกอร์ (มีที่นั่งหัวหน้าใหญ่ไว้ให้ถ่ายรูปอย่างโดดเด่น) ส่วนเมนูอาหารนั้นมาครบทั้ง อาหารเรียกน้ำย่อยไปจนถึงมื้อหนัก ซึ่งแต่ละเมนูล้วนแล้วดึงอิมเมจของมาสก์ไรเดอร์แต่ละภาค อย่างสลัดคริติคอลสไลซ์ที่จัดจานตามหน้าตาของมาสก์ไรเดอร์เอ็กเซด, เครื่องดื่มที่จัดแต่งมาเป็นทรง มาสก์ไรเดอร์ V3 หรือของหวานที่จัดธีมสีเหมือนมาสก์ไรเดอร์บิลด์ เมนูมีการปรับเปลี่ยนไปตามภาคมาสก์ไรเดอร์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เป็นการเชิญชวนให้แฟนไอ้มดแดงต้องแวะเวียนมาร้านนี้หลายรอบ โชคดีนิดหน่อยที่ของที่ระลึกซึ่งวางจำหน่ายที่ร้านนั้นยังเป็นแค่ของกระจุกกระจิกแบบเสื้อ หมวก ที่รองแก้ว และคุกกี้ลายมาสไรเดอร์หมายเลข 1 กับ เหล่ากีกี้ เท่านั้น เพราะถ้ามีเข็มขัดแปลงร่างวางขายให้ซื้อง่ายๆ น่าจะมีหลายคนกระเป๋าแห้งตอนเดินออกจากร้านแน่ๆ
Gundam Cafe, Japan
ท้ายสุดของบทความนี้น่าจะเป็นร้านที่ผู้เดินทางไปญี่ปุ่นน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาดี เพราะนี่คือร้านคาเฟ่กันดั้ม ที่เปิดให้บริการ 3 พื้นที่ในญี่ปุ่น นั่นก็คือ เขตอากิฮาบาระ กับ เขตโอไดบะ ภายในกรุงโตเกียว และที่โอซาก้าอีกหนึ่งสาขา รวมถึงมีการเปิดร้าน Pop-Up Store สาขาย่อยบ่อยครั้ง ตัวร้านมีเขาของกันดั้มเป็นโลโก้ชัดๆ เมนูของกินในร้านที่ทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวคุ้นเคยก็ไม่พ้น กันดั้มคาเฟ่ลาเต้ ที่จะตกแต่งผิวหน้าของถ้วยด้วยหน้าของหุ่นชื่อดังหลายๆ ตัว กับ กันพลายากิ ของหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่ทำทรงเป็นกันดั้มหรือซาคุของชาร์ยัดด้วยไส้ถั่วแดงกวน ซึ่งเมนูนี้มีจำหน่ายทุกสาขา แต่ถ้าอยากจัดของกินชุดใหญ่ต้องแวะเวียนไปที่สาขาอากิฮาบาระ (ร้านตั้งใกล้ๆ กับ AKB48 Cafe&Shop) ของกินในกันดั้มคาเฟ่สาขาดังกล่าวจัดเต็มทั้งชุดอาหารกลางวันและอาหารเย็น เมนูที่โดดเด่นก็คงเป็นข้าว ชาร์ซาคุไรส์ หรือข้าวผัด จัดหน้าตาให้เหมือนซาคุกับชาร์ และอีกไฮไลต์ที่เราแนะนำให้ลองแวะเวียนก็คือห้องน้ำที่จัดบรรยากาศและมีเอฟเฟกต์เสียงเหมือนกับได้ขับหุ่นยนต์ในยามปลดทุกข์
นอกจากร้านคาเฟ่เหล่านี้แล้วก็ยังมีร้านคาเฟ่อื่นๆ ที่ เปิดพื้นที่ให้ตัวละครการ์ตูนหรือเกมต่างๆ ได้หมุนเวียนใช้พื้นที่ อย่างเช่น ใน Pasela Resorts ก็จะมีการ์ตูนหรือเกมอื่นมาจัดคาเฟ่แบบระยะสั้นในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง หรือร้าน Cafe & Bar Characro ที่มี Bandai Namco บริษัทที่ดูแลคอนเทนต์จำนวนมากเป็นเจ้าของ ก็จะใช้วิธีการหมุนเวียนตัวละครเป็นธีมของร้านในแต่ละช่วงเวลาไป
แต่ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ธีมการ์ตูนร้านไหนก็ตาม ร้านเหล่านั้นต่างทำหน้าที่สร้างความฝันของแฟนๆ ที่พวกเขาเคยคิดวาดไว้ให้กลายเป็นความจริงที่จับต้องและเปย์เงินให้เพื่อความสุขที่เคยอยู่บนหน้าจอ ได้มาอยู่ในมือและอิ่มท้องด้วยล่ะ
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมจาก
Facebook Fanpage: Hello Kitty House Bangkok
Facebook Fanpage: Moomin Cafe Thailand
Facebook Fanpage: Charlie Brown Cafe – Thailand
Facebook Fanpage: paul frank café
Facebook Fanpage: May’s Garden House Restaurant
Facebook Fanpage: Ultraman Heroes Official Shop & Restaurant
Facebook Fanpage: Gudetama Café Singapore
Answerman – ทำไมคาเฟ่จากมังงะหรือเกมถึงเปิดขายไม่นาน
รูปภาพจาก
Gundam Cafe (Akihabara, Tokyo)
{Japan: Eat} A Late Lunch At The Straw Hat Cafe, Ghibli Museum