เสียงเพลงญี่ปุ่น,ผู้คนที่แต่งกายเลียนแบบตัวละครทั้งจากการ์ตูนและเกม, กลุ่มคนที่รอเข้าคิวเพื่อซื้อหนังสือที่มุมโต๊ะหน้าขาวเล็กๆ พร้อมด้วยร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าการ์ตูนหลากหลาย
ข้างต้นนี้คือลักษณะของ ‘งานการ์ตูน’ (และเกม) ที่กลุ่มคนการ์ตูนส่วนใหญ่คุ้นเคย โดยส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเป็นงานที่บุคลากรในประเทศไทยจัดงานกันเอง มีงานจำนวนหนึ่งที่จัดงานเป็นประจำ กับอีกส่วนที่อ้างอิงธีมงานจากเรื่องที่โด่งดังในช่วงนั้นบ้าง แต่ในช่วงเดือน กรกฎาคม จนถึง สิงหาคม นี้ คนที่ติดตามงานการ์ตูนและหลายท่านที่ไม่เคยไปงานแนวนี้ จะได้เจอกับงานการ์ตูนแนวที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง วันนี้เราจะมาแจ้งรายละเอียดวันจัดงาน สถานที่จัดงาน และค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้างานโดยคร่าวให้ฟังกันนะ
เทศกาล สร้างคน สร้างชาติ ด้วย(หนังสือ)การ์ตูน #2 : อ่านการ์ตูนไทย
เทศกาลของร้านหนังสือริมขอบฟ้าที่มีแนวคิดประจำร้านเข้าใจได้โดยง่ายว่า ‘รู้เรื่องเมืองไทย’ (Discover Thailand) จึงมีกิจกรรมส่งเสริมนักอ่านที่เกี่ยวข้องกับสังคมไทยอยู่เป็นประจำ กิจกรรมนี้เป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่สองของทางร้านที่จัดขึ้นเกี่ยวข้องกับการ์ตูน ที่ไม่ได้มองแค่ว่าการ์ตูนเป็นสินค้าสำหรับความบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถพลิกเป็นสาระเพื่อพัฒนาตัวบุคคลได้ด้วย
น่าจะเป็นงานขนาดยาวงานเดียวในช่วงนี้ที่นำเสนอเรื่องการ์ตูนไทยเป็นหลัก แนวคิดของร้านหนังสือริมขอบฟ้านั้นมักจะมีอะไรน่าสนใจเสมอๆ อยู่แล้ว แม้งานนี้อาจจะยังไม่ชัดเจนนักว่าจะเชิญท่านใดมาเสวนาเรื่องทิศทางการ์ตูนไทยหรือไม่ แต่แค่ได้ลองเดินไปดูผลงานการ์ตูนทั้งที่สำนักพิมพ์ใหญ่เป็นผู้จัดจำหน่าย หรือเป็นหนังสือไร้ค่าย เท่านี้ก็น่าจะพอเห็นแล้วว่าการ์ตูนไม่ใช่แค่สิ่งบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่มันได้กลายเป็นวรรณกรรมที่จดบันทึกสภาพสังคมแบบเข้าใจง่ายๆ ไปแล้ว
สถานที่จัดกิจกรรม : ร้านหนังสือริมขอบฟ้า มุมอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย
วันจัดกิจกรรม : 8 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม เวลาทำการ 10.00-19.00 น.
ค่าใช้จ่ายสำหรับเข้างาน : ฟรี
มังงะ อนิเม เกม จากญี่ปุ่น สู่กรุงเทพมหานคร
ไม่ใช่ว่าในไทยจะไม่เคยมีนิทรรศการการ์ตูนจัดมาก่อน แต่ส่วนมากก็จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการ์ตูนไทย หรือ พูดถึงโลกของการ์ตูนญี่ปุ่นในไทยเสียมากกว่า สำหรับงานนิทรรศการสื่อผสมงานนี้เป็นงานที่ส่งตรงมาจากแหล่งกำเนิดสุดๆ ด้วยความร่วมมือของสำนักงานวัฒนธรรมแห่งรัฐบาลญี่ปุ่น กับ กระทรวงวัฒนธรรม และกรมศิลปากรของประเทศไทย พูดได้เต็มปากว่าเป็นงานที่จะมีสาระจากสื่อบันเทิงที่ผู้ใหญ่ให้การยอมรับแบบนอนแน่เลย
งานนี้เคยจัดแสดงมาก่อนในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงประเทศเมียนมาร์เมื่อช่วงต้นปี การมาจัดงานครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เป็นการขยายฐานรากให้ธุรกิจการ์ตูนและอนิเมชั่นที่มีในไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะมีร้านจำหน่ายสินค้าตรงจากญี่ปุ่น โรงเรียนสอน ยังเป็นการจัดงานเพื่อฉลองความสัมพันธ์ของไทยกับญี่ปุ่นที่กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 130
จุดที่ไม่อยากให้พลาดจากงานนี้ ก็คงเป็นข้อมูลที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นโดยตรง มีทั้งส่วนที่ลงลึกในรายละเอียดของแต่ละเรื่องที่ถูกจับมานำเสนอว่ามีข้อเด่นแบบไหน ก่อกระแสให้ธุรกิจการ์ตูนแบบใดบ้าง ทั้งยังมีส่วนสัมนาที่ได้วิทยากรจากญี่ปุ่น มาแบ่งปันความรู้ทั้งเรื่องธุรกิจของวงการการ์ตูนอนิเมชั่น กับด้านกราฟฟิกดีไซนในญี่ปุ่นที่ถือว่าเป็นอีกสิ่งสำคัญในวงการนี้
สถานที่จัดกิจกรรม : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป
วันจัดกิจกรรม : 16 กรกฎาคม – 28 สิงหาคม เวลา 9.00 – 19.00 น. หยุดทำการทุกวันจันทร์ และ วันอังคาร
ค่าใช้จ่ายสำหรับเข้างาน : ฟรี แต่ค่ารถอาจจะเยอะสักนิด แม้จะมีรถตู้ให้โดยสารฟรีจาก BTS พญาไทในช่วงวันหยุดก็ตาม
ANICO Animation – Novel – Comic – Combination
“เฮ้ย มันจะมีไหมวะงานการ์ตูนงานไหนที่เชิญนักเขียนการ์ตูนมาให้เจอตัว มาแจกลายเซ็นกันในไทยเนี่ย” ฝันค้างของคนติดตามการ์ตูนหลายๆ คน ก็คงเป็นความรู้สึกอย่างที่บอกไปข้างต้น ข่าวดีก็คือ งานแบบนี้มีโอกาสจะจัดขึ้นจริงในประเทศไทยแล้ว กับงานชื่ออินเตอร์ แต่จริงๆ แล้วเป็นงานที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของสำนักพิมพ์ที่จัดทำการ์ตูนลิขสิทธิ์ในประเทศไทย ซึ่งเปิดตัวไปในปีก่อนแล้วก็เงียบหายไปนาน
เราคาดว่างานนี้จะมีพูดถึงก็คงเป็นเรื่องการอุดหนุนการ์ตูนลิขสิทธิ์จะส่งผลดีต่อลูกค้าอย่างไร ส่วนที่แน่นอนแล้วก็คือเราจะมีนักเขียนนักเขียนการ์ตูนและนักเขียนนิยายญี่ปุ่นรวม 4 ท่าน หนึ่งในนั้นมีผู้เขียนการ์ตูนเรื่อง GTO ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดีด้วย
อีกความโดดเด่นหนึ่งก็คงจะเป็นงานแรกที่ลูกค้าแบบเราๆ ท่านๆ จะได้พบเจอกับทุกสำนักพิมพ์ในงานเดียวกัน และอยู่บูธใกล้ชิดกัน (งานหนังสือมันกระจายๆ บูธกัน) อาจจะเป็นโอกาสดีของท่านๆ ที่จะไปบ่นสำนักพิมพที่ท่านขุ่นข้องใจอยู่ก็ได้ในงานนี้
สถานที่จัดกิจกรรม : ลานหน้าร้าน animate bangkok ชั้น 7 ศูนย์การค้า MBK
วันจัดกิจกรรม : 22-24 กรกฎาคม 2559 เวลา 10.00 – 22.00 น. โดยประมาณ
ค่าใช้จ่ายสำหรับเข้างาน : ฟรี แต่ค่าของสะสมทั้งหลายแหล่ที่จะปรากฏในงานน่าจะไม่ฟรี
Anime Festival Asia Thailand 2016 หรือ AFATH 2016
ถ้าเทียบกับงานก่อนหน้า งานนี้ค่อนข้างจะเป็นงานสายบันเทิงอย่างมากที่สุด แต่งาน Asian Festival Asia ก็ไม่สมควรโดนมองข้ามไปด้วยประการใด เพราะความบันเทิงในงานล้วนแล้วแต่มาจากทั้งฝั่งตัวแทนลิขสิทธิ์ในไทย และบริษัทจากทางญี่ปุ่นโดยตรง ไม่เพียงส่วนบริษัทเท่านั้น ตัวงานยังเปิดโอกาสให้กับเหล่านักวาดนักเขียนอิสระไม่ได้สังกัดค่าย มาออกผลงานแสดงความสามารถกัน ส่วนบันเทิงจัดๆ ก็มีทั้งนักร้องเพลงประกอบอนิเมชั่น หรือเหล่านักคอสเพลย์จากต่างประเทศมาแสดงกันแบบสดๆ ด้วย
ถึงแม้จะเห็นว่าจะเป็นงานชิลๆ ของคนติดตามการ์ตูน แต่ก็มีมุมเจรจาอันเร่าร้อน อย่างที่บอกไว้ว่า งานมีมาจัดกันทั้งบริษัทไทย บริษัทญี่ปุ่น ทั้งยังมีดารานักร้องตัวจริงมาในงาน จึงไม่แปลปเลยที่จะมีการติดต่อธุรกิจกันในงานนี้ (นักเขียนนักวาดอิสระหลายที่ผู้เขียนรู้จัก งานงอกจากงานนี้เลย)
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ผู้จัดงานและผู้เขียนประสบมากับตัวคือ ตัวงานที่ค่อนข้างจะมีคนมาเยี่ยมชมค่อนข้างเยอะ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ดังนั้น หลายๆ ครั้งแขกรับเชิญของงานนี้ก็มักจะเดินปะปนเข้ามาจนกลายเป็นภาวะ ‘กระทบไหล่ดารา’ ได้อย่างง่ายๆ ส่วนเซอร์ไพรส์ของปีนี้ได้ความว่าจะมีบริษัทเกมจากญี่ปุ่นมาเปิดตัวเกมชื่อดังกันในงานด้วยล่ะ
สถานที่จัดกิจกรรม : รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
วันจัดกิจกรรม : 19-21 สิงหาคม 2559 เวลา 10.00 – 21.00 น. โดยประมาณ
ค่าใช้จ่ายสำหรับเข้างาน : ไม่ฟรี ตั๋วราคาถูกสุด 150 บาท และราคาเพิ่มขึ้นถ้าอยากเข้าโซนเวทีสัมภาษณ์กับการชมคอนเสิร์ต
ข้างต้นคืองานเด่นที่เราเห็นผ่านตา (ความจริงจะยังมีงานยิบย่อยอีกนะ) เหตุที่งานการ์ตูนมากองกันในช่วงฤดูฝนแบบนี้ ทั้งที่คนอาจจะไม่คิดจะฝ่าฝนออกไป ส่วนนึงก็เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเว้นวรรคการจัดกิจกรรมใหญ่ๆ ในไทย ส่วนทางญี่ปุ่นก็ยังไม่เข้าหน้าร้อนเต็มรูปแบบ บุคลากรจากญี่ปุ่นยังพอจะขยับตัวมาต่างประเทศได้โดยง่าย กิจกรรมเหล่านี้จึงถูกจัดขึ้นแบบปูพรมชนิดที่บางคนอาจจะต้องกำหนดตารางชีวิตในการออกเที่ยวกันดีๆ ทีเดียว
อีกประการหนึ่งก็คงเป็นความพยายามที่ประเทศญี่ปุ่นต้องการจะนำเอากระแสวัฒนธรรมป็อปที่เดิมเก็บเนื้อเก็บตัให้เป็นของเฉพาะคนบนเกาะเท่านั้น แต่ผลพวงจากการเปิดโครงการ Cool Japan และการถูกละเมิดลิขสิทธิ์นอกประเทศอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทจากญี่ปุ่นเริ่มทำการออกมาสร้างแบรนด์(การ์ตูน) นอกประเทศให้เข้มแข็งขึ้น
อย่างในไทยเอง ปีที่ผ่านมาก็มีทั้งการเปิดร้านจำหน่ายสินค้าจากญี่ปุ่นโดยตรง และ โรงเรียนสอนความรู้เกี่ยวกับมังงะและอนิเมชั่น ไม่นับว่าบริษัทในไทยก่อนหน้านี้หลายบริษัทก็รับงานเป็น Outsource ให้กับทางญี่ปุ่นมานานแล้ว ไม่แปลกนักที่จะมีการจัดงานขึ้นมาเพื่อ ‘ผลักดัน’ ธุรกิจที่อยู่รอบข้างการ์ตูนให้มากไกลจากจุดเดิมมากขึ้น
งานทั้งหลายที่เราบอกต่อนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นว่าตอนนี้การ์ตูนกลายเป็น ‘วัฒนธรรมที่กำลังเป็นสากล’ แล้ว ก็อยากบอกคุณผู้อ่านว่า อยากจะลองไปเดินงานไหนก็วางแผนกันดีๆ นะ ไม่งั้นเงินไม่พอจะหาว่า The MATTER ไม่เตือน