ทั้งที่ครั้งนึง พวกมันอาจปรากฏอยู่บนสื่อต่างๆ ระดับ ‘ยั้วเยี้ย’ มองไปทางไหนเราก็ต้อง ‘น้องแมว’ ไปหมดทั้งโฆษณาโทรทัศน์ รายการบน YouTube เว็บไซต์นู่นนี่ นิตยสารหลายหัว หนังสือหลายเล่ม อินสตาแกรมดารา อีเวนต์ในห้างสรรพสินค้า คาเฟ่แมว ฯลฯ Cat Marketing สร้างโอกาสและวิธีการใหม่ๆ ในโลกการตลาด เป็นจุดสนใจ เหมือนดวงตาของมันที่สะท้อนแสงจากในที่มืด
2-3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก กระแสแมวเหมือนจะแผ่วจะหายไป แต่หายไปจริงไหม หรือมันแค่ซุกซ่อนอยู่ในทุกที่เช่นเดิมอย่างที่เคยเป็น ตัวนู้นอยู่ตรงกำแพง ตรงนั้นซ่อนอยู่ข้างกระถางต้นไม้ ส่วนอีกตัวก็นอนรับแดดอยู่บนหลังคา The MATTER ชวนมาหาความเป็นไปของแมวในวันนี้ กับ ‘ทูนหัวของบ่าว’ ชุมชนคนรักแมวที่ดังที่สุดในประเทศไทยด้วยจำนวน Like 3.1 ล้านคน เพจแมวเจ้าของแมวตระกูลเสือชื่อดังอย่าง ‘เสือโคร่ง’ ‘เสือสมิง’ ‘เสือซีต้าร์’ หรือ ‘อโศก’ ‘แม่มะลิ’ และอีกมากมาย
The MATTER : คุณว่าไหมว่ามันแผ่วไป
แผ่วจริง แต่มองในแง่ที่ดี เราคิดว่ามันก็ส่งผลดีที่จะเหลือเฉพาะแฟนพันธุ์แท้ซึ่งเหนียวแน่นกับเราจริงๆ แต่ถ้าพูดถึงการตลาดกับแมวนี่มันยังอยู่ และยังมีมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย เราสังเกตได้จากเอเยนซี่โฆษณาต่างๆ ที่ยังติดต่องานด้านการตลาดเราเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ทั้งโฆษณาที่แมวเป็นตัวแสดง แมวเป็นตัวเล่าเรื่อง หรือกระทั่งหนังที่เกี่ยวกับแมวปีนี้ก็มากกว่า 3 เรื่องแล้วมั้ง
เคยคุยกับเจ้าของผลิตภัณฑ์สัตว์แห่งหนึ่ง เขาบอกว่ามีผลการวิจัยระบุว่ากระแสแมวในเอเชียยังคงจะเติบโตไปอีกอย่างน้อย 10 ปี เพราะไลฟ์สไตล์ของคนภูมิภาคนี้ที่อยู่เป็นโสดมากขึ้นหรืออาศัยอยู่ตัวคนเดียวมากขึ้น แมวจะเข้ากับวิถีชีวิตของพวกเขา คือมีระยะห่างให้เจ้าของได้ปลีกวิเวกสัก 2-3 วัน หรือกระทั่งคนที่มีครอบครัวก็สามารถหยุดยาวไปที่อื่นไกลๆ ได้โดยไม่ลำบาก ผลิตภัณฑ์สำหรับการเลี้ยงแมวแบบอัตโนมัติก็มีเยอะขึ้น การตลาดจึงยังมีอยู่
ในแง่ของความสนใจ มันก็เป็นปกติในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเรื่อยๆ กระแสเปลี่ยนไปตลอดเวลา จักรยาน วิ่ง รองเท้า กระเป๋า ดารา มีอะไรสนุกๆ ให้ทำตลอด มันไม่ผิดหรอกที่เขาจะหาความสุขให้กับตัวเองบ้าง เพียงแต่มันไม่ใช่แมว
The MATTER : ตอนนี้คุณอยู่อเมริกา เล่าหน่อยได้ไหมว่าไปทำอะไร
เราถูกเชิญมาในฐานะ Influencer และเจ้าของเพจแมวในประเทศ คือในเพจของเรายอดไลค์ตอนนี้คือ 3 ล้าน เป็นคนไทย 2 ล้านคนที่เหลือคือชาวต่างชาติ มาที่นี่ก็คือมีแฟนเพจเยอะอยู่นะ มันเป็นงานแมวชื่อ Catcon LA จัดที่ลอสแองเจลิส ต้องมาอยู่นี่ 3 สัปดาห์
The MATTER : พาแมวไปโชว์ตัวด้วยหรือเปล่า
ไม่ เราไม่เห็นด้วยกับการให้แมวเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะเขาต้องอยู่ใต้เครื่อง ในไทยหรือสายการบินละแวกบ้านเรายังไม่มีสายการบินไหนอนุญาตให้เอาแมวขึ้นไปนั่งกับเราได้ ไม่เหมือนในอเมริกาที่มีหลายแห่งสามารถทำได้
The MATTER : ที่อเมริกามีทาสแมวไหม
เท่าที่เห็นในงานคือทุกคนคลั่งแมวมากกกกกก กำลังซื้อเยอะ แล้วก็ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับแมวด้วยซ้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ บัตรเครดิต หรืออะไรที่เป็นแมวเขาหยิบหมด แต่งตัวเป็นแมวทุกคน หรืออย่างน้อยบนร่างกายต้องมีอะไรสักอย่างที่เป็นแมวคนละชิ้นสองชิ้น
แล้วยิ่งกับแมวที่ดังๆ ในอเมริกาคือดังประหนึ่งดารา นั่งเฟิร์สคลาสเวลาไปโชว์ตัว ได้พักในโรงแรมห้าดาว มีการจัดแฟนมีตติ้งแบบขายตั๋ว ซึ่งตั๋วแพงกว่าคอนเสิร์ตดีๆ บ้านเราอีก แถมยังหมดภายในเวลาสั้นๆ ส่วนคนอเมริกันที่ยอมบินข้ามรัฐมาเพื่อเจอแมวก็มี
ทาสแมวมีทั่วโลกแหละ อย่างแมวเราก็มีคนบินมาจากต่างประเทศเพื่อเจอก็มี ไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น โดยเฉพาะญี่ปุ่นนี่คือคลั่งยิ่งกว่า เขาจริงจังกับความรักที่มีต่อแมวมาก ส่วนหนึ่งเพราะแมวเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งของเขาด้วย เขาจึงอยู่กับแมวมาตลอด และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับแมวนี่ก็เยอะ บางอย่างคือเห็นแล้วแบบ…เอ่อ ยังงี้ก็ได้ใช่ไหม เช่น หนังสือรวมภาพไข่แมว อุ้งเท้าแมว หรือพุงแมวอะไรยังงี้ คืออะไรที่เป็นแมวเขาเห็นเป็น ‘อร๊างง’ กันไปหมด สงสัยแมวมันคิดจะครองโลกจริงๆ (หัวเราะ)
The MATTER : อะไรที่ทำให้แมวมีอิทธิพลมากบนอินเทอร์เน็ตเมื่อ 2-3 ปีก่อน
พื้นฐานเลยก็คือความมุ้งมิ้ง ความแมวน่ะ เราว่าแมวเป็นตัวแทนของความอิสระ ถ่ายทอดความเป็น Individual ได้ดี รักอิสระ เล่นเมื่ออยากเล่น อยากได้ความรักก็เดินมาหาเอง ไม่ต้องยุ่งกันเยอะ ห่างๆ กันหน่อยก็ได้ และความที่ความอยากได้ความรักมันไม่ตรงกัน บางครั้งแมวมันทำให้มนุษย์อยากเอาชนะมันมาก หาทางให้ได้ความรักจากแมวด้วยสารพัดวิธี เล่นกับกูทีเถอะ ซื้อของมาแล้วพอมันไม่เล่นก็พ่ายไป เปลืองเงิน อาหารบางครั้งแพงกว่าของคน เราก็พร้อมจะปรนเปรอให้ แต่เวลาที่เราเพิ่งตื่นหรือไม่พร้อมจะเล่น แมวก็จะมาละ
The MATTER : ใครที่พร้อมจะตกเป็นทาสแมว
คนเหงาและคนโสด กลุ่มนี้ถ้าเจอแมวมาคลอเคลียหน่อยนะ ตายไปเลย (หัวเราะ) คือเมื่อแมวเข้าไปหา เขาอาจจะรู้ว่าได้ชนะใจแมว นี่ไงคือความรักที่มนุษย์กันเองยังไม่ให้กูเลย ดูสิ
The MATTER : สำหรับคุณ ‘แมว’ เปลี่ยนไปไหมในความหมายของคนที่ว่ากันว่าชีวิตเปลี่ยนเพราะแมว
คือเราเกิดมาก็อยู่ในบ้านที่มีแมวแล้ว ไม่ใช่ตั้งใจหาแมวมาเลี้ยงเพื่อทำเพจ แมววนเวียนอยู่ในชีวิตมาตลอด บางคนบอกว่าเรามีบ้านมีรถมีดั้งก็เพราะแมว แต่จริงๆ คนที่ไม่ได้รู้จักหรือติดตามว่าก่อนหน้านี้มักไม่รู้ว่าเราทำงานหนักมาก่อน กว่าจะซื้อบ้านซื้อรถเราก็ทำงานมา มีอาชีพมาเหมือนกัน (งานสาย Creative) เมื่อมาเลี้ยงแมวก็ไม่ได้ทำอะไรๆ เกี่ยวกับแมวแค่อย่างเดียวเหมือนอย่างที่คนอื่นเข้าใจ เวลาเราอยู่ในห้องตัดต่อเขาไม่ได้มาอยู่กับเรานี่ อดนอนแทบตายเขาไม่รู้กัน
แต่เราก็ต้องขอบคุณแมวเหมือนกันที่ทำให้มีวันนี้ได้ เพราะมันเป็นการจุดประกายให้เราพบทางนี้ และทำ Kingdom of Tigers เอเจนซี่ของตัวเองขึ้นมาได้ คอยทำการตลาดเชิงสร้างสรรค์ สร้างกิจกรรมกับคนรักแมว ทำการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ของแมว ใช้ความสามารถที่เรามีร่วมไปกับความรักได้ เหมือนเราจับกระแสถูกทาง ตอนนี้ลูกค้าของเราก็มีแค่พวกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแมว หรือจะมีบ้างที่มาจ้างทำเพจ ซึ่งไม่เกี่ยวกับแมวนะ เพราะพวกเขาเชื่อมือในการสร้างคอนเทนต์ของเรา
ส่วนเรื่องดั้งนี่เพิ่งจะมาทำ เพราะอายุ 30 กว่าแล้วก็ขอสวยหน่อยเหอะ เผื่อจะมีสามี (หัวเราะ)
The MATTER : เบื่อไหมที่คนเข้าใจคุณยังงั้นเสียเยอะ
ไม่ถึงกับเบื่อ เข้าใจว่าคนมันคิดกันได้ มองย้อนไปเราก็เข้าใจว่าเราอยู่ในกระแสดราม่ายุคเริ่มแรกที่เริ่มทำเพจแมว ขายของเกี่ยวกับแมว หากินแบบแมว แต่ดูตอนนี้ดิ เพจแมวเป็นร้อย ขายของทุกเพจ รวยกว่าเราเยอะเลยนะ แต่แค่สปอตไลท์ไม่ได้ไปส่องที่เขา เราคิดว่ามันคล้ายกับเราไปแหวกดงหญ้ามากกว่า แต่ตลกดีเหมือนกันนะเพราะคนที่ดราม่าใส่เราเมื่อก่อนเขาก็ทำเพจแมวเองในที่สุด
The MATTER : ความดราม่าบั่นทอน Productivity หรือ Creativity ของคุณไหม
มาก เมืองไทยเป็นเมืองดราม่ามากเลยนะ อ่อนไหวไปกับทุกสิ่ง ทั้งคนที่เข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นและคนอื่นมายุ่งเรื่องของเรา คนแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะอยู่รอด ต้องก้าวผ่านคำครหาหรือสิ่งที่สังคมคาดหวังบังคับให้เราเป็นให้ได้ ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาว่า หรือตั้งมั่นในทางที่เดินอยู่ก็อย่าอ่อนไหว เป็นตัวเราเองดีที่สุด
คือเมื่อก่อนเราก็เป็นยังงั้นนะ เราเล่นทวิตเตอร์เราก็ไปยุ่งเรื่องของคนอื่นทุกเรื่อง จนมาโดนกับตัวเอง มึงต้องไม่หากินกับแมวนะ มึงต้องใจบุญกว่านี้นะ มึงต้องนั่นนี่ มึงต้องงี้งั้น แล้วไง ช่วยค่าอาหาร ค่าหมอไหม ก็ไม่นี่ ตั้งแต่นั้นก็ไม่ไปเสือกเรื่องของใครเลย (หัวเราะ)
The MATTER : คุณผ่านดราม่าหนักหนามาได้ยังไง
โห ตอนนั้นเราเคยคิดสั้นอยู่หลายหนนะ เพราะมันมีทั้งคนขู่ คนชี้หน้าหาว่าเราหากินกับแมว มาตะโกนหน้าบ้าน จะปีนเข้าบ้านมาเอาอโศก (แมวอโศก—ที่เคยโด่งดังเพราะเป็นแมวที่อยู่ตรงรถไฟฟ้าสถานีอโศกด้วยท่าทีรับแขกเสมอ แต่เข้าบ้านทูนหัวของบ่าวเพราะความไม่ปลอดภัยจากสิ่งแวดล้อมย่านนั้น) ทั้งที่ก่อนเราจะเอาอโศกมาเลี้ยงเขาก็ไม่เห็นทำอะไร ต้องร้องไห้อยู่ในรถหลายครั้งเพราะไม่กล้าลงไปไหน กลัวไปหมด นอนโรงพยาบาลบ่อยมากช่วงนึงเพราะเครียดแล้วมันส่งผลต่อร่างกายคือนิ้วมือจีบ ความเครียดนี่มันร้ายนะ เพื่อนเราหลายคนปากเบี้ยวเพราะเครียดกับงาน ต้องเข้าโรงพยาบาลฉีดยาคลายเส้น แต่เราดันเข้าไปใกล้สิ่งนั้นเพราะความเครียดที่เกิดขึ้นเพราะปากคนอื่นนี่นะ พอคิดว่านี่เราจะต้องตายเพราะคนอื่นคาดหวังให้เราเป็นยังงั้นยังงี้ เราต้องหมดค่ารักษาเป็นแสนอีคนที่ด่ามาช่วยออกสักบาทไหมเนี่ย คิดได้ยังงี้เลยขับรถไปหาหมอจิตแพทย์เลย ว่ารักษาให้หน่อย จนตอนนี้ก็ยังกินยาอยู่บ้าง
พอมองข้ามมันได้ก็สบายขึ้นมากเลย ทำในสิ่งที่เราสบายใจดีกว่า ทำแล้วมีความสุข ดีกว่านั้นก็คือทำความสุขให้กับคนอื่นได้มันยิ่งดี
The MATTER : ทุกวันนี้คุณดูแลแมวยังไง
ยิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย ตื่นตีห้า ให้อาหาร เก็บอึ ทำความสะอาดทุกสิ่งในบ้าน ไปไหนก็เอาไปด้วย
The MATTER : เหมือนเป็นงาน?
ไม่ใช่งานแล้วนะ มันเป็นชีวิตไปแล้ว คืองานเรายังปฏิเสธได้ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ ไม่ชอบทำงานกับคนนี้ก็ไม่ทำ แต่แมวมันไม่ได้ ถ้าไม่ทำเดี๋ยวเขาป่วย แมวข่วนแขนเราก็ไม่โกรธไม่ตี แต่ถ้าเป็นงานเรายังเหวี่ยงได้งอนได้ใช่ไหมล่ะ
The MATTER : ตอนนี้คุณคัดเลือกแมวเข้าบ้านยังไง
ไม่มีวิธีคัด มันงอกของมันเอง อย่าง ‘เสือขาว’ (แมวขาวที่ประสบอุบัติเหตุหนัก) ก็ไม่ได้ตั้งใจมีเพิ่มเลย แต่ใครจะเอาแมวตาบอดที่มีลิ้นครึ่งเดียว ต้องปั่นอาหารให้กินทุก 2 ชั่วโมงไปเลี้ยงล่ะ เราพอจะทำได้ก็เอามาเลี้ยง หรือ ‘นัวเนียน’ ตัวที่เพิ่งมาก็คือมาขอข้าวที่บ้านกินทุกวัน วันนึงมันเอาถูกเอาเชือกมัดไปปล่อยวัด พอกลับมาได้ดันเป็นลูคีเมียอีก ก็ต้องเลี้ยงเอาไว้ที่ออฟฟิศอีกตัว
The MATTER : อะไรคือเป็นสิ่งสำคัญในการทำเพจแมว
ก็ความเป็นแมวแหละ แค่แมวน่ารักก็มีคนติดตามแล้ว เราเป็นติ่งแมวญี่ปุ่นเยอะแยะ แค่มันขยับตัวในคลิปเราก็กรี๊ดแล้ว
ถ้าเยอะกว่านั้นก็อยู่ที่คนและการถ่ายทอดแมว เพราะเอาจริงๆ แมวมันก็อยู่ของมันเฉยๆ ทุกตัวแหละ อยู่ที่คนที่จะใส่ความรู้ความสามารถที่มีเติมลงไป นี่เป็นสิ่งที่แต่ละเพจไม่เหมือนกัน อย่างเพจของเรา แมวมีคาแรคเตอร์ มีก็เพราะการที่เราได้อยู่กับเขามาตลอด เลยสังเกตเห็นได้ และเล่าเรื่องออกไป แล้วเราดูแลทุกอย่างเอง โปรดัคชั่นทุกอย่างก็จัดการด้วยตัวเอง คือถ้าเราไม่มีความรู้ในการทำอะไรพวกนี้เพจก็คงบิ๊วไม่ขึ้นเหมือนกัน
The MATTER : คุณวางแผนยังไงกับเพจ
สร้างไปเรื่อยๆ ตอนนี้เพจเรามัน beyond เพจแมวน่ารักไปแล้ว มันกลายเป็นครอบครัวคนรักแมวที่ใหญ่มากไปแล้ว เราชอบมากๆ เวลามีงานหรือมีแฟนเพจเข้ามากอด มาร้องไห้กับพี่ว่า ทุกวันนี้ได้แมวพี่เป็นกำลังใจ คนที่เป็นมะเร็งก็ขอรูปทุกครั้งก่อนจะไปทำคีโม พวกไม่เคยคุยกับพ่อแม่แต่กลับมารักกันได้เพราะเอาแมวในเพจพี่เป็นคุยในครอบครัว หรือคนที่สูญเสียคนรัก คนในครอบครัวเสีย เป็นโรคซึมเศร้า ก็พอจะมีความสุขคือได้เห็นภาพแมวเรา
ส่วนเรื่องอื่นๆ ปีนี้กับปีหน้ามีแผ่นไปต่างประเทศเยอะ อยากให้นานาชาติรู้จักเพจแมวเรา หนังสือใหม่ของเราแปลไป 5 ภาษา แต่ละเล่ม มันฟินมากเลยนะที่เห็นคนฟินกับหนังสือและแมวของเรา
The MATTER : คุณคิดยังไงกับการกำจัดแมวจรจัดในบางประเทศที่ ‘กำจัด’ ไปเลย
มันน่าเศร้ามากเลยนะ แต่อย่างต่างชาติเราก็ต้องเคารพในกฎกติกาและการจัดการของเขา ส่วนที่เราพอจะทำได้ก็คือจัดการความรู้สึกของตัวเอง ในบ้านเราเอง เท่าที่พอจะทำได้ในจุดที่เราอยู่ คือพยายามสอดแทรกความรู้การดูแลแมวตลอด คนเราเยอะมากที่เลี้ยงแมวด้วย Google ไม่เอาไปทำหมันเพราะกลัวบาป ไม่ฉีดวัคซีน หรือเลี้ยงแบบผิดๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่เกิดให้มีแมวจรเยอะ ทำให้งานที่เราจัดต้องมีสัตวแพทย์อยู่ด้วย เพราะถ้ามีการหาบ้านให้แมวใหม่จะได้จัดการทำหมันไปด้วยเลยได้
The MATTER : พอกระแสความสนใจแมวเริ่มแผ่วไป มีผลต่อแมวในด้านอื่นไหม
มี เดี๋ยวนี้แมวจรหาบ้านได้ยากขึ้น โครงการรักษ์แมวบอกเราเองเลย แล้วก็งานใหญ่ๆ ถูกจัดน้อยลง ส่งผลกระทบกันไปเรื่อยๆ
The MATTER : เป็นไปได้ไหมว่าที่ผ่านมาคนอาจมองแมวเป็นวัตถุ เป็นแฟชั่น
ก็แล้วแต่คนจะมองนะ คนที่มองเป็นแฟชั่นมันก็มี เราเคยเจอบางคนบอกว่าเลี้ยงแมวเพราะถ่ายรูปกับบ้านแล้วสวยดี
The MATTER : เห็นข่าวว่ามีหนังเพื่อแมว โรงภาพยนตร์เพื่อแมว โรงแรมแมว ฯลฯ นี่เราทำเพื่อแมวมากไปไหม
เยอะแยะเลยนะ รถเพื่อแมว แมว is everywhere แต่ถ้าเรารัก เราก็จะทำ เราอาจผิดเองที่ทำก็ได้ (หัวเราะ) เรารักอะไรเราก็จะมองหาสิ่งนั้น รักแมวก็มองหาสิ่งที่สามารถอยู่กับแมวเราได้ ไปเที่ยวเราไม่ได้หาว่าอะไรอร่อย โรงแรมไหนห้องพักดี แต่หาดูว่าแมวมาได้ไหม (หัวเรา)
The MATTER : เราจะแยกแยะยังไงกับคนที่รักแมวจริงกับคนที่ทำเพื่อการค้า
ก็อยู่ที่เรามอง แยกจากจิตใจของเรา
The MATTER : แสดงว่าเขาก็โกหกได้
เราอาจจะโกหกอยู่ก็ได้ (หัวเราะ) เราก็เคยถูกแบนออกจากบางกลุ่ม เพราะเขาบอกว่าไปช่วยเขาเพราะจะสร้างภาพ หรือกับบางคนที่ใครๆ ก็ว่าเขาทำเพื่อการค้า เราก็ไปสืบมาแล้วพบว่าจริงๆ เขาหาเงินช่วยหมาแมวจรจัดเยอะมากจริงๆ เราก็ช่วยหางานไปป้อนเขา เขาจะได้ทำต่อไปได้ มันก็แล้วแต่เราจะเลือกที่จะทำนั่นแหละ
The MATTER : คุณคิดยังไงกับเพจไข่แมว
บางอันเก็ตง่ายดีนะ บางอันต้องไปอ่านคอมเมนต์ต่อ คือเขียนง่ายๆ บ้างก็ได้ ไม่ต้องซ่อนเยอะ จริงๆ ไข่แมวมันไม่ได้หายากนะ ยกเว้นแมวที่เป็นทองแดงอะต้องคลำหาไข่ (หัวเราะ)