“10 ปีนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่มันคือจุดเริ่มต้น” – ซนซึงวาน
กว่า 6 ปี ที่ลัฟวี่ไทยไม่ได้เจอ ‘Red Velvet’ ในคอนเสิร์ตเดี่ยวของพวกเขา ทว่าในวันนี้ทุกการรอคอยของพวกเราสิ้นสุดลงแล้ว เราสามารถตะโกนก้องได้อย่างเต็มเสียงว่า ‘ประเทศไทยเรามีน้องเค้กแล้วจริงๆ’
เมื่อวันเสาร์ อาทิตย์ที่ 17-18 สิงหาคม 2024 ที่ผ่านมา ไม่มีใครที่จะยิ้มกว้างไปกว่าผัดไทยลัฟวี่ เพราะในทุกวินาทีเราได้ใช้ร่วมกับ Red Velvet นั้น ล้วนคละเคล้าไปด้วยมวลความสุขเปี่ยมล้น เกินกว่าที่ตัวอักษรเพียงไม่มีตัวจะบรรยายออกมาได้หมด
วง 10 ปี กับการครองอิมแพ็ค อารีน่า ถึง 2 รอบการแสดง และบัตร sold out ทุกที่นั่ง แม้จะไม่ใช่ในทันที่ที่เปิดขายบัตร แต่ลัฟวี่ไทยและแฟนเพลงของน้องเค้ก ก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับ Red Velvet ได้อีกครั้ง
และประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ชื่อว่า ‘2024 Red Velvet FANCON TOUR <HAPPINESS : My Dear, ReVe1uv> in BANGKOK’ นี้ จะตราตรึงอยู่ในใจลัฟวี่ชาวไทย และ Red Velvet ไปอีกนานแสนนาน จนเป็น Remember Forever ระหว่างเรา

ภาพจาก SM True
การรอคอยที่แสนยาวนานของพวกเราสิ้นสุดลงแล้ว
“ขอบคุณลัฟวี่ไทย ที่รอพวกเราถึง 6 ปีด้วยกัน” – เบจูฮยอน
“เคยสัญญาว่าจะกลับมาพบกับทุกคนอีกครั้งหนึ่ง วันนี้ดีใจที่ได้รักษาสัญญานั้นแล้ว” – คิมเยริม
เราเคยเจอกันที่ธันเดอร์โดม เมื่อ 6 ปีก่อน
เราเคยเกือบจะได้เจอกันที่ธันเดอร์โดมอีกครั้งในปีที่แล้ว
และวันนี้เราได้เจอกันในที่ที่ใหญ่กว่าเดิม ในโอกาสที่พิเศษกว่าเดิม กับแฟนคอนครบรอบ 10 ปี ที่รายล้อมไปด้วยลัฟวี่กว่า 17,000 คน และเป็นประเทศแรกต่อจากเกาหลีที่น้องเค้กเลือกมาแสดง
ไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่เพราะเป็น Red Velvet และลัฟวี่ชาวไทย ทุกอย่างเลยเกิดขึ้นมาได้อีกครั้งอย่างสมบูรณ์แบบ
หากย้อนกลับไปในวันที่ 30 พฤษภาคม 2023 วันที่เหมือนอสนีบาตฟาดลงกลางใจลัฟวี่ไทยทุกคน เพราะคอนเสิร์ต ‘R to V’ ที่ทุกคนรอคอย ประกาศยกเลิกแบบไม่ทันตั้งตัว และมันติดค้างอยู่ในใจของพวกเราทุกคน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในวันนั้นเราเสียใจกันมากขนาดไหน ความหวังที่จะได้พบเจอ การรอคอยที่แสนยาวนาน ทำให้เราทวีความเศร้ามากขึ้นในใจ แต่แล้วในวันนี้ทุกอย่างที่เคยวาดฝันไว้ก็เป็นจริงขึ้นมา เราได้นั่งอยู่ในฮอลล์อิมแพ็ค อารีน่า กุมแท่งไฟด้วยมือที่เย็นเฉียบ และเฝ้าถามตัวเองอยู่ในใจว่า เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหมนะ
พลันเมื่อน้องเค้กปรากฏตัวขึ้นหน้าของเราจริงๆ จะด้วยสัญชาตญาณหรือความรักที่ท่วมท้นก็ไม่อาจทราบได้ แต่กว่าที่เราจะรู้สึกตัว เสียงกรี๊ดและเสียงตะโกน Happiness ก็ดังไปพร้อมๆ กับน้องเค้กแล้ว
ทุกความเสียใจ ทุกหยดน้ำตา และทุกการรอคอยด้วยความหวัง แฟนคอนนี้สามารถลบล้างมันออกไปได้หมด คงเหลือไว้แค่ความทรงจำว่าครั้งหนึ่งคอนเสิร์ตในประเทศไทยเคยถูกยกเลิก แต่นับจากวันนี้เราจะไม่มีน้ำตาให้กับมันอีกต่อไปแล้ว เราจะมีแต่รอยยิ้ม เมื่อพูดถึงแฟนคอนครั้งนี้แทน
คงเหมือนกับที่พัคซูยองบอกไว้ว่า “การเฝ้ารอคอยซึ่งกันและกัน ทำให้เมื่อเราได้เจอกันอีกครั้ง ช่วงเวลาเหล่านี้เลยยิ่งมีความหมายมากขึ้นไปอีก”

ภาพจาก Red Velvet
ทั้งยิ้มเพราะเปี่ยมสุข และร้องไห้เพราะเปี่ยมรัก
แม้จะรู้อยู่แล้วว่าลำดับการแสดงเป็นยังไง แต่ในตอนที่ได้เห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเอง ก็ทำให้เราและคนรอบข้างกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะแฟนคอนครั้งนี้เปิดฉากด้วยเพลง Happiness ในวินาทีที่ได้เห็นเยริวิ่งไปหาพี่ๆ ที่อ้าแขนรอรับ ความรู้สึกท่วมท้นก็ตีตื้นขึ้นมา แน่นอนว่ามันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ แต่เหมือนทุกภาพในวันวานย้อนกลับมาหาเราทั้งหมด
จากเด็กน้อยในวันนั้น ที่เราเคยได้เห็นไอรีนรีดชุดนักเรียนให้ วันนี้พวกเขาทั้ง 5 คน โตเติบกันมาได้อย่างดี เป็น 10 ปีที่เราได้เห็นพวกเขาเติบโตมาพร้อมๆ กัน ทั้งโอบกอดกันในวันที่แสนสุข แบ่งเบาความทุกข์ซึ่งกันและกันในวันที่แสนเศร้า
อาจเพราะเราเจอกันไม่บ่อย การได้มองเห็นพวกเขาด้วยตาอีกครั้งหลังจากที่ผ่านมาหลายปี เลยรู้สึกว่าพวกเขาเติบโตกันขึ้นมากๆ เติบโตได้อย่างสง่างาม รู้ตัวอีกทีเราก็รักพวกเขามา 10 ปีแล้วจริงๆ
ท่อนหนึ่งของ VCR ตอนท้ายแฟนคอน ทำให้เรามีน้ำตาได้อีกรอบ เพราะประโยคจากเยริที่บอกขอบคุณลัฟวี่ทุกคนตั้งแต่แรกวันที่ได้รู้จักและโอบกอดเขาเสมอมา “ขอบคุณที่ปกป้องฉันมาตั้งแต่ยังเด็ก และขอบคุณที่ทำให้ฉันได้โบยบินอย่างอิสระ”

ภาพจาก Red Velvet
และจากหยดน้ำตาก็แปรเปลี่ยนเป็นความสนุกสนานไม่รู้จบ Red Velvet คัดเอาเพลง B-side ในอัลบั้มของพวกเขา มาร้อยเรียงต่อกัน เพื่อให้แฟนคอนในครั้งนี้สมบูรณ์แบบที่สุด
ไม่ใช่แค่ความสนุกจากเพลงที่ได้ฟังเท่านั้น แต่แฟนคอนนี้ยังเปิดโอกาสให้ลัฟวี่เขียนโพสต์อิทถึงพวกเขาด้วย แม้จะมาในช่วงศูนย์ให้คำปรึกษา แต่ข้อความบนกระดาน เกินครึ่งกลายเป็นคำให้กำลังใจ Red Velvet แทน แถมความพิเศษเพิ่มลงไปคือเราทำให้น้องเค้กรู้จักเพลงนปโปะหม่ำๆ และได้ฟังเพลง Happy Birthday เวอร์ชั่นประสานเสียงสดๆ จากน้องเค้กอีกด้วย
จากนั้นก็ระเบิดความสนุกกันด้วยเพลงไตเติ้ลที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ขนมาทั้ง Bad Boy, Psycho, Feel My Rhythm, Queendom, Cosmic ทำเอาอิมแพ็ค อารีน่าสั่นสะเทือน ไม่ใช่แค่ความสนุกจาก Red Velvet แต่เพราะมีลัฟวี่ไทยที่ทำให้แฟนคอนครั้งนี้เต็มไปเอนเนอร์จี้เหลือล้น เราไม่ได้แค่แฟนชานท์ แต่ร้องตามทั้งเพลง ท่อนแอดลิปก็ขึ้นถึง ท่อนแรปก็ไม่ตกสักบีท ท่อนไหนเต้นได้ก็ใส่สุดเหวี่ยง
ยังไม่นับรวม เพลงที่ Red Velvet แถมให้เป็นโบนัสอย่าง Zimzalabim ที่ทำเอาลัฟวี่ลุกยืนกันทั้งฮอลล์ กระโดดร้องตามกันสุดเสียง จนน้องเค้กที่อยู่บนเวทีอดใจไม่ไหวกระโดดไปพร้อมกับพวกเราทุกคน เป็นอีกความประทับใจที่จะถูกจดจำลงในใจลัฟวี่ไทยทุกคน
เราได้เห็นว่า Red Velvet สนุกกับการแสดงในไทยมากขนาดไหน พวกเขาได้ยิ้ม หัวเราะ และเสียน้ำตาไปพร้อมความรักจากลัฟวี่ไทยที่คอยโอบกอดเสมอ เป็นการปิดฉากแฟนคอน 10 ปีที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด

ภาพจาก RVVProjectTH
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ผัดไทยลัฟวี่ก็มีแรงเชียร์ Red Velvet เสมอ
ตลอดแฟนคอนทั้ง 2 วัน สิ่งที่เรารับรู้ได้จากหัวใจ คือทุกแววตา ทุกน้ำเสียง ทุกการแสดงออกของน้องเค้ก ทำให้เรารับรู้ได้ว่า พวกเราลัฟวี่ไทย มีค่ากับ Red Velvet มากขนาดไหน
และเช่นกัน เพราะ Red Velvet ก็มีค่ากับลัฟวี่ไทยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
“สายตาที่ทุกคนมองมาที่เรามันอบอุ่นมากๆ ทำให้พวกเราได้รับเอนเนอร์จี้ที่ยิ่งใหญ่มากๆ กลับไป” – คังซึลกิ
แฟนโปรเจ็กต์แปรอักษรจากลัฟวี่ไทย ทั้งทะเลหัวใจ 5 สี และ 러비❤️레벨 เป็นเสมือนตัวแทนความตั้งใจ เพื่อบอกให้ Red Velvet ได้รับรู้ว่าจากดอยชั้น 3 ที่ไกลๆ ตรงนี้ ก็ยังมีลัฟวี่ที่รักพวกเขาอยู่เช่นกัน แสงสว่างจากกล่องไฟ ทำให้เราเข้าใกล้กันได้มากขึ้น ในวันนี้พวกเราเติมเต็มที่นั่งทั้งอิมแพ็ค อารีน่าจนไม่เหลือที่ว่าง ลัฟวี่ไทยนับหมื่นคนมองดู Red Velvet ทั้ง 5 เปล่งประกายอยู่บนเวที และมันจะเป็นเช่นนี้ต่อไปในอนาคต
ในฐานะลัฟวี่คนหนึ่ง เราก็อยากจะบอกกับ Red Velvet ว่า อะไรที่เคยกังวล อะไรที่เคยผิดหวัง จากนี้ปลดเปลื้องสิ่งเหล่านั้นลง แล้วเป็นตัวเองในแบบที่อย่างเป็นให้เต็มที่เลยนะ ลัฟวี่ไทยจะเป็นลมใต้ปีก เป็นพลังบวกให้กับทุกคนตรงนี้เสมอ
ไม่ต้องกลัวจะไม่มีเสียงกรี๊ด ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สนุกสนาน เพราะแค่เป็น Red Velvet ลัฟวี่ไทยก็พร้อมจะส่งเสียงเชียร์ให้จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย ไม่ว่าจะเคยกังวล ไม่มั่นใจเพราะใครหรือจากไหนก็ตาม อย่างน้อยที่สุดในวันนี้ หลังจบทัวร์จากไทย ขอให้ Red Velvet มั่นใจได้ว่าทุกเอนเนอจี้ที่เราส่งไปให้ คือสิ่งที่ Red Velvet สมควรได้รับมาโดยตลอด และนี่อาจจะยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับตลอด 10 ปีที่ทั้ง 5 คนคอยมอบความสุขให้พวกเราเสมอมา
แม้เส้นทางที่เราร่วมเดินด้วยกันมาจะก้าวผ่านมาแล้วร่วมทศวรรษ แต่เราเชื่อด้วยหัวใจว่ามันจะเป็นแบบที่เวนดี้บอกไว้ว่า นี่เป็นจุดเริ่มต้นของพวกเรา จากนี้เราจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 อย่างสง่างาม แล้วกลับมาประเทศไทยพร้อมคอนเสิร์ตครั้งใหม่นะ Red Velvet
You are my happiness for 10 years
💗💛💙💚💜