เวลาเจอหนังสือดีๆ ที่ถูกใจ ก็อยากให้คนรัก หรือคนรู้จักได้อ่าน แล้วถ้าอยากให้ตัวเราเมื่อ 10 ก่อนได้อ่านบ้างล่ะ จะเป็นเล่มไหนดี?
หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้จริงๆ จะด้วยประตูวิเศษโดราเอมอน หรือไทม์แมชชีนใดๆ ก็ตาม เลยลองถามกันเล่นๆ ว่า 10 ปีที่ย้อนกลับไปนั้น คุณอายุเท่าไหร่ แล้วอยากให้หนังสืออะไรกับตัวเอง
ชาญชนะ หอมทรัพย์
อาชีพ: นักเขียนบทภาพยนตร์ / อาจารย์พิเศษ
“งานของโกวเล้งนี่ใครๆ ก็อ่าน ‘ฤทธิ์มีดสั้น’ แต่เราอ่านเมื่อ 10 ปีก่อน ในวัย 20 ต้นๆ กลับรู้สึกว่ามันขมไป เรื่องที่เหมาะกับช่วงวัยนั้นมากกว่าคือ ซาเสี่ยวเอี้ย กับ อินทรีผงาดฟ้า 2 เรื่องนี้พูดถึงชีวิตคนหนุ่มที่กำลังร้อนวิชา ทระนงด้วยความคิดว่า “ข้าเก่งเหนือใครในใต้หล้า” นี่เป็นกับดักวัยเยาว์อันคลาสสิค คนหนุ่มน้ำเต็มแก้วแบบ ‘เจี่ยเฮียวฮง’ และ ‘เต็งพ้ง’ ตัวเอกทั้ง 2 เรื่องนั้นเป็นคนเศร้ามาก เพราะแพ้ความทระนงตน มันทำให้พวกเขาโดดเดี่ยว และความโดดเดี่ยวในวัยหนุ่มมันโหดร้ายไปหน่อย ไม่มีเพื่อน ไม่มีคนรัก ไม่มีอาจารย์ ไม่มีคนที่พวกเขารู้สึกว่าลองอ่อนแอบ้างก็ได้ แพ้บ้างก็ดี …เราอ่านช้าไป มันตบหน้าเราช้าไปหน่อย ถ้ารู้จักเรียนรู้ ถ่อมตัว และแพ้บ้าง ก็อาจเป็นคนหนุ่มที่มีบาดแผลแห่งการเรียนรู้มากกว่านี้ เข้าใจโลกเร็วขึ้นกว่านี้”
เบญจวรรณ มังกรอัศวกุล
อาชีพ : กองบรรณาธิการนิตยสาร a day
“อยากให้ The Alchemist (ขุมทรัพย์สุดปลายฝัน) ของ Panlo Coelho ค่ะ เราอ่านเล่มนี้ตอนอายุ 23 ยกให้เป็นหนังสือที่กดปุ่มระเบิดคิวเคลียร์ในใจเลยอะ (นี่ก็เว่อร์ไป) คือจากคนขี้ป๊อดตอนนี้เจออะไรก็ลุยแหลกและเชื่อใจตัวเองมากกว่าเดิม สิบปีก่อนเราเคยฝันสิ่งที่ตรงข้ามกับชีวิตตอนนี้มากๆ เลยอยากรู้ว่าถ้าได้อ่านตอนอายุ 13 เราจะลุยแหลกเพื่อความฝันก้อนเดิมอยู่มั้ย จริงๆ เราหมายมั่นว่าจะกลับไปอ่าน The Alchemist ในวันที่ตัวเองแก่ขึ้น ขอแอบส่งเล่มนี้ให้ตัวเองในอดีตด้วยละกัน”
ชานันท์ ยอดหงษ์
อาชีพ : คอลัมนิสต์
“หนังสือ ‘ความจริงเพื่อความยุติธรรม: เหตุการณ์และผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เมษา-พฤษภา 53’ (2555) ตอนนั้น 20 ขวบกว่า เพิ่งเรียนจบหมาดๆ กำลังวิ่งเร่หางาน งานอะไรก็ได้ไม่เกี่ยวกับความรู้ที่เรียนมาก็ได้ ทั้งสไตลิสต์ PR ผับบาร์ เหมือนอยู่บนทางแยกระหว่างปากท้องกับความร้อนวิชา และในบริบทตอนนั้นหลายคนยังเฉลิมฉลองกับเผด็จการหลังรัฐประหาร 2549 อยู่ งงเด้…ตอนนั้นงงจริง ที่เรียนมาในมหา’ลัย กับโลกข้างนอกมันกลับหัวกลับหางกัน ตอนนั้นยังไม่มีหนังสือเล่มนี้ หากย้อนเวลาได้จริงจะแบกเอาไปอ่านด้วย ที่ต้องแบกเพราะหนามากเกือบ 1,400 หน้า ให้เห็นว่าผลลัพธ์ของรัฐประหาร ความอัปลักษณ์และวิกฤตการณ์ความรุนแรงหลังจากนั้นเป็นเช่นไร ซึ่งเราต่างได้รับผลกระทบนี้ และหนังสือนี้ช่วยย้ำเตือนความรู้หลังเราเรียนจบว่า เรามาถูกทางแล้ว ไม่ว่าจะทำงานอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับที่เรียนเลย”
ธนาคาร จันทิมา
อาชีพ : บรรณาธิการสำนักพิมพ์
“ย้อนกลับไป 10 ปี เราอายุ 20 ปีขบเผาะ อยู่ในวัยแสวงหาและหลงทาง หนังสือที่อยากเปิดประตูโดเรมอนไปยื่นให้ตัวเองคือ ‘วิชาสุดท้าย (ที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอน)’ แปลโดยคุณสฤณี อาชวานันทกุล เสียดายที่มาอ่านเอาตอนเรียนจบหลายปีแล้ว เหตุผลที่เลือกเล่มนี้ไม่ใช่เพราะเป็นสุนทรพจน์คนดังที่ประสบความสำเร็จ แต่เล่มนี้เต็มไปด้วยคำเตือนและบทเรียนจากความล้มเหลว ซึ่งช่วยปลุกความกล้า เตือนตัวเองว่าอย่าป๊อด ยิ่งล้มเร็ว ยิ่งเจอทางเร็ว ทุกวันนี้ก็ยังกลับไปพลิกอ่านเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เคยเหมือนเดิม กระดาษแผ่นเดิม เพิ่มเติมคือประสบการณ์ของเรา ถึงจะย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว แต่เราช่วยประหยัดเวลาให้คนอื่นได้ เล่มนี้จึงเป็นของขวัญที่เรามักซื้อให้น้องที่กำลังจะรับปริญญาเสมอ”
คาลิล พิศสุวรรณ
อาชีพ : Content editor
“คำพิพากษา ชาติ กอบจิตติ เราเพิ่งได้อ่านเล่มนี้ตอนที่เข้ามหา’ลัย ซึ่งก็นึกเสียดายที่ถ้าได้อ่านเล่มนี้เร็วกว่านี้ก็คงดี 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราอายุ 16 เป็นช่วงที่การเมืองไทยกำลังเข้มข้น และเราเองก็ได้รับผลกระทบทางความคิดพอสมควร กลายเป็นตัดสินคนจากเสื้อสี ชีวิตยึดอยู่แต่กับแนวคิดดี-ชั่ว เลือกฟังความอยู่ข้างเดียว คิดว่าถ้าตอนนั้นได้อ่าน ‘คำพิพากษา’ จริงๆ ก็อาจไม่ถึงกับถอนรากความคิด หรือเปลี่ยนความเชื่อหรอก แต่อย่างน้อยมันอาจช่วยลดความ radical ในตอนนั้นลง สงบอารมณ์ที่จุดระเบิดได้ง่ายลง และรู้จักที่จะฟังข้อเท็จจริงจากหลายมุมก่อนจะตัดสินใจว่าจะเชื่อ หรือไม่เชื่อใคร”
น้ำปาย ไชยฤทธิ์
อาชีพ : กองบรรณาธิการ
“ถ้าย้อนเวลากลับไป 10 ปีตอนนั้นจะอายุ 12 อยากให้ ‘โอซาว่า ฮายกครัว’ กับตัวเอง เพราะตอนนั้นยังไม่รู้จักการ์ตูนโคตรป่วงเซ็ตนี้ ถ้าได้อ่านน่าจะเป็นเด็กที่ได้เติบโตอย่างมีความสุขมากขึ้น (แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ไม่มีนะ 555) ขำขันขึ้น และโตมาอาจจะเป็นคนตลกขึ้นก็ได้”
อภิวัฒน์ ทองเภ้า
อาชีพ : วิดีโอครีเอเตอร์
“ณ ที่ดวงตะวันฉายแสง ข้าจะไม่สู้รบอีกต่อไป …เป็นหนังสืออีกเล่มที่เพิ่งอ่านตอนอายุ 23 ถ้าย้อนกลับไปก็ อายุ 13 เลือกมอบเล่มนี้ให้กับตัวเอง เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ความคิดบางอย่างที่ดี ให้เราได้รู้สึกเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์มากขึ้น รู้สึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างตัวเรากับธรรมชาติและสรรพสิ่งอย่างลึกซึ้งมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้”
ชาคร ไชยปรีชา
อาชีพ : นักตัดต่อ, ผู้กำกับ
“นึกไม่ออกเลยว่าจะให้หนังสืออะไรดี เพราะยอมรับว่าช่วงหลังๆ อ่านหนังสือที่เป็นเล่มๆ น้อยลงมาก แล้วก็ไม่ได้ประทับใจเล่มไหนเป็นพิเศษ แต่ถ้าต้องให้ก็คงจะให้หนังสือตรวจหวยย้อนหลังจนถึงงวดล่าสุด คุณภาพชีวิตอาจจะดีกว่านี้ครับ”