ยอมรับว่า สำหรับตัวผมเองที่ค่อนข้างจะห่างหายจากการดูหนังไทยไปพักใหญ่ หนังเรื่อง แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า (2025) ในทีแรกจึงดูเป็นหนังรักเด็กสาววัยใสสไตล์ GDH ที่อาจจะไม่ได้พิเศษอะไรมากนัก ทว่าในความจริง หนังกลับคมคายในการเล่าถึงความรักของคนที่สังคมอาจละเลย ทั้งยังฉลาดใช้ความเฉพาะตัวของสถานที่เพื่อสะท้อนปัญหาในไทย
*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์เรื่อง
แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า*
แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า เล่าเรื่องด้วยการจูงมือคนดูเดินเข้าไปยังแฟลตตำรวจและทำความรู้จักกับ ‘แอน (ฟาติมา เดชะวลีกุล)’ และ ‘เจน (กิรณา พิพิธยากร)’ สองสาวที่เติบโตมาด้วยกันในแฟลตตำรวจ ทั้งคู่เรียนโรงเรียนหญิงล้วนแห่งเดียวกัน เดินทางกลับจากโรงเรียนพร้อมกัน แชร์ห้องนอนด้วยกันบ้างในบางวัน จะต่างกันก็ตรงที่ ในความอยู่ร่วมแฟลตเดียวกันนั้น ฐานะของครอบครัวเจนนับว่าดีกว่า แม่ของเจนคือเมียตำรวจผู้คุมเงินกู้ประจำแฟลต ส่วนแม่แอนคือม่ายลูกสามที่ผัวผู้เป็นตำรวจตายในหน้าที่ ครอบครัวแอนทำได้แค่ขอเช่าห้องอยู่โดยรู้ทั้งรู้ว่าหมดสิทธิจะพักอาศัย อีกตัวละครสำคัญคือ ‘อาตอง (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์)’ นายตำรวจหน้าใหม่จากต่างจังหวัดที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในแฟลตแห่งนี้
การนำเสนอภาพความเป็นอยู่ของคนในแฟลตนั้นดูจะสมจริงเอามากๆ ในระดับที่แม้แต่ตัวผมเองที่ไม่เคยเกิดและใช้ชีวิตอยู่ในแฟลตก็สามารถรับรู้และอินไปกับบรรยากาศในเรื่องได้ ซึ่งสาเหตุของการฉายภาพออกมาได้แจ่มชัดคงเป็นเพราะตัวผู้กำกับอย่าง จิรัศยา วงษ์สุทิน ได้หยิบเอาประสบการณ์ส่วนตัวของเธอเองในฐานะเด็กผู้หญิงที่เติบโตในแฟลตตำรวจ มาเป็นส่วนสำคัญของผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก แม้ผมจะรู้สึกว่าบทสนทนาในบางช่วงจะดูผิดแปลกจากบทสนทนาในความเป็นจริงไปบ้าง ซึ่งก็อาจจะโต้แย้งได้ว่า ความไม่เหมือนจริงเกินไปนั้นทำให้หนังยังคงเป็นหนังอยู่ แต่โดยรวมแล้วทุกองค์ประกอบในหนังก็ส่งให้คนดูเชื่อว่า เรากำลังจับจ้องไปยังชีวิตประจำวันของคนในแฟลตตำรวจจริงๆ
หากดูกันที่ชื่อเรื่อง แกนหลักสำคัญของเรื่องที่จะไม่พูดถึงไปไม่ได้คือความรักและชนชั้น น่าสนใจที่ แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า ไม่ได้พาคนดูไปสำรวจประเด็นนี้ในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างคนจนและคนรวย หรือความรักแบบดอกฟ้ากับหมาวัด หนังกลับพาไปเห็นความเหลื่อมล้ำที่ส่งผลกับความรักในความสัมพันธ์ของคนสองสามคนที่ฐานะดูจะไม่ห่างกันเท่าไหร่
เจนที่ถึงจะยังไม่แน่ใจในความรู้สึกตัวเอง แต่ด้วยสภานะครอบครัวที่ค่อนข้างมั่นคงในแฟลต จึงแสดงความรู้สึกต่อพี่แอนด้วยไร้กังวลและใสซื่อ จนแอนที่เข้าใจดีถึงสภาพความเป็นอยู่และอนาคตของความสัมพันธ์ ถึงกับต้องออกปากว่าความรักนั้นก็เป็นแค่เรื่องของคนรวย ตรงนี้เองที่หนังอาจกำลังบอกว่า การรักที่มีชนชั้นมาเกี่ยวพัน จึงไม่แค่ความเศร้าเคล้าโรแมนติกระหว่างเศรษฐีพันล้านกับมนุษย์ออฟฟิศ ทว่ายังคือเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับคนตัวเล็กตัวน้อย
สิ่งที่ผมมองว่าหนังชาญฉลาดคือการพูดถึงความเลื่อมล้ำโดยไม่จำเป็นต้องมีอะไรหรูหรามากมายให้เห็นในเรื่อง ภาพของเมืองหลวงที่ดูเจริญหูเจริญตาก็เป็นเพียงฉากหลังที่อยู่ไกลออกไป และหนึ่งในความฝันที่ใกล้ที่สุดของแอนและเจนคือเรือสำราญล่องแม่น้ำเจ้าพระยา เรือที่ทั้งสองอยากลองไปนั่งด้วยกันดูสักครั้ง ความทันสมัยและแสงไฟสว่างไสวกลายเป็นความเหินห่าง แต่ถึงอย่างนั้น ในมุมสลัวของห้องพักทรุดโทรม หลอดไฟประจำแฟลตที่ติดๆ ดับๆ หลายครั้งมืดสนิทเพราะใช้การไม่ได้ มันก็ทำให้เห็นความเหลื่อมล้ำได้อย่างชัดเจนขึ้น
นอกจากความรัก แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า ยังนำเสนอถึงความเป็นส่วนตัว (privacy) เป็นอีกหนึ่งอภิสิทธิ์ที่แค่คนมีเงินเท่านั้นจะมีได้ ความเป็นส่วนตัวที่ถูกรุกล้ำถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำในแฟลตตำรวจ ทั้งการที่แอน เจน และเพื่อนๆ แอบเข้าห้องพักของคนแปลกหน้าเพื่อแอบขโมยกินเหล้าและสูบบุหรี่ ก่อนจะข้ามระเบียงหลบหนีไปยังห้องอาตอง
หรือการที่ความสัมพันธ์ส่วนตัวแพร่สะพัดเป็นเรื่องนินทาประจำแฟลตภายในเวลาไม่ถึงวัน กระทั่งฉากโรแมนติกระหว่างแอนกับเจนเองก็เกิดขึ้นในห้องนอนที่มีน้องๆ ของแอนนอนหลับอยู่ ภาพที่หนังฉายให้เห็นปั๊มน้ำของทุกห้องพักกองกระจุกรวมกันอยากไร้ระเบียบและสูบน้ำจากบ่อเดียวกัน จึงเป็นภาพผมที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวและมองว่ามันสื่อสารประเด็นนี้ได้ตรงจุดที่สุด
ในด้านตัวละคร อาตองเป็นอีกตัวละครหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ และนับเป็นตัวละครที่มีพัฒนาได้น่าสนใจตลอดเรื่อง ในทีแรกที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ อาตองเป็นเหมือนตัวแทนของชายนิสัยดี บุคลิกดี และดูจะเป็นตำรวจน้ำดีที่เชื่อใจได้ อาตองคอยเป็นเพื่อนตีแบดฯ เป็นที่พึ่งให้เด็กๆ ในแฟลต และไม่ค่อยไปสังสรรค์กับตำรวจนายอื่น
ต่อมาภายหลังเราจะเห็นว่าการเข้ามาอยู่ในแฟลตค่อยๆ เปลี่ยนตัวตนของอาตองไปอย่างไร เราค่อยๆ เห็นบาดแผลและความบกพร่องในตัวอาตอง มองเห็นความใจดีที่เกินเลยจนเลยเถิดไปสู่ความสัมพันธ์อันเป็นปัญหา และท้ายที่สุดอาตองเองที่พยายามจะเป็นตำรวจตามความคาดหวังของประชาชน ก็ไม่พ้นจำเป็นต้องหลุดเข้าไปในวงจรของตำรวจที่สังคมไทยมองว่าเลว
มองในแง่หนึ่ง แฟลตตำรวจเป็นอีกหนึ่งหน่วยสังคมที่ไม่ได้รับการพูดถึงในสื่อบันเทิงเท่าไหร่นัก และเมื่อมันได้รับการพูดถึง แฟลตตำรวจใน แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า ก็เป็นภาพสะท้อนได้อย่างดีของวงจรอุบาทว์ที่กำลังทำลายชีวิตและความฝันของสังคมไทย การเติบโตในสภาพสังคมที่อยู่อย่างไร้หวังและไม่คิดจะฝันไกล เพราะเชื่อว่าต่อให้ฝันไกลแค่ไหนก็ยังติดอยู่ที่เดิม ความเหลื่อมล้ำยิ่งถ่างกว้าง แม้แต่ตัวแทนของความยุติธรรมเช่นตำรวจที่หวังจะเป็นที่พึ่งก็ไม่สามารถพึ่งได้
เมื่อเป็นแบบนี้ การที่แอนตัดสินใจหายไปจากชีวิตของเจนในตอนท้ายของเรื่อง จึงอาจเป็นทางเลือกที่เธอตัดสินใจเพื่อจบวงจรอุบาทนี้ หนีออกจากชีวิตในแฟลตตำรวจ และจบวงจรอุบาทว์แทนตัวเจนที่พร้อมจะยอมอยู่ในแฟลตตำรวจไปตลอดชีวิต
ส่วนตัวผมแล้ว แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า คือหนึ่งในหนังที่กำลังส่งเสียงว่าหนังไทยยังไม่ตกอยู่ในวงจรอุบาทว์จนหาทางไปต่อไม่ได้ เรายังมีเรื่องราวให้หยิบจับและนำมาเล่าให้ลึกซึ้งได้โดยไม่ต้องขายความโรแมนติก เรื่องผี หรือความตลกโปกฮาเพียงอย่างเดียว