สำหรับวัยทำงานที่มีอายุค่อยไปทางเลขสาม จะรู้สึกเคยชินกับการเช็กอีเมลในตอนเช้า เลื่อนผ่านจดหมายกองใหญ่ ไม่ว่าจะโปรโมชั่นจากเว็บต่างๆ ที่เราเป็นสมาชิก ใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์จากแอปพลิเคชั่นต่างๆ ธุรกรรมออนไลน์ โฆษณาทั่วไป จนเจออีเมลที่ต้องการจริงๆ ก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร เหมือนเราต้องคุ้ยจดหมายกองใหญ่ คนรุ่นใหม่ที่อายุน้อยลงมาหน่อย แม้จะอยู่กับการใช้อีเมลมาบ้าง แต่พวกเขากลับไม่รู้สึกว่ามันเป็นวิธีการติดต่อสื่อสารที่เวิร์กเท่าไหร่ แม้ในการทำงาน แล้วถ้าวันเวลาผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนคนรุ่นใหม่ในตอนนี้กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวล่ะ โลกของเราในตอนนั้นจะยังใช้อีเมลกันอยู่หรือเปล่านะ?
สมัยเรียนมหาวิทยาลัย การเขียนอีเมลหาอาจารย์ เป็นปราการด่านแรกที่ให้เราคอยฝึกฝนกระบวนท่าในการจัดรูปแบบให้ถูกต้อง เลือกใช้คำให้เหมาะสม ต่อมาหางานทำ อีเมลก็ยังคงเป็นช่องทางสำหรับการติดต่อพูดคุยกับองค์กร ว่าเราเป็นใคร มาสมัครในตำแหน่งอะไร หรือแม้แต่ก้าวเข้ามาในโลกของการทำงานแล้ว เราก็ยังคงต้องใช้อีเมลในการติดต่อสื่อสารกันอยู่ดี ไม่ว่าจะภายในองค์กรหรือระหว่างองค์กรก็ตาม หลายคนคงจะสัมผัสได้ว่า อีเมลถูกจับมาอยู่ในรูปแบบของการติดต่อสื่อสารอย่างเป็นทางการ ที่เราต้องระมัดระวังเรื่องแบบฟอร์ม ระวังการใช้คำ จนกลายเป็นความเก้ๆ กังๆ ทุกครั้งก่อนกดส่งอีเมลออกไป
เพราะมันเป็นการสื่อสารที่ต้องเป็นทางการที่แหละ มันจึงเป็นที่นิยมในการทำงาน จะพูดจะบอก จะซื้อจะขาย ก็ต้องอีเมลไว้ก่อน แต่ก็เพราะเหตุนี้ด้วยเหมือนกันแหละมั้ง เลยทำให้เด็กเจเนอเรชั่นใหม่ๆ รู้สึกไม่ชอบการใช้อีเมลเอาเสียเลย และพวกเขาก็ไม่นิยมใช้อีเมลกันจริงๆ แม้แต่ในการทำงานก็ตาม อาจเพราะพวกเขาเติบโตมาแล้วมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นหลังยุคของอีเมล และในการทำงานจริง เราก็ไม่ได้ใช้อีเมลในการทำงานเพียงอย่างเดียว
ลองนึกดูว่าเราใช้ช่องทางใดในการทำงานบ้าง โดยเฉพาะงานที่ต้องอาศัยการการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น การพูดคุย ประชุม แชร์หน้าจอ ที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้ ชื่อยอดฮิตที่เราจะได้ยินกันในทุกออฟฟิศก็คงเป็น Microsoft, G-suit, Slack, Zoom และอีกสารพัดโปรแกรมที่ทำมาเพื่อการจัดการภายในองค์กร แม้เราจะใช้โปรแกรมหลายๆ อย่างร่วมกันอยู่ทุกวัน แต่เชื่อเถอะว่ามีบางอย่างเป็นที่นิยม และไม่เป็นที่นิยมด้วยฟังก์ชั่นในตัวมันเอง
มาดูผลสำรวจจาก Fastcompany กัน พบว่า ในการทำงาน ท่ามกลางการใช้โปรแกรมอันหลากหลาย คนที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป นิยมใช้อีเมลมากเป็นอันดับหนึ่ง แต่สำหรับคนที่อายุน้อยกว่า 30 ลงมา พวกเขากลับนิยมใช้ Google Docs มาเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วย Zoom และ Apple’s iMessage อีเมลไม่ได้อยู่ในสักอันดับของคนรุ่นใหม่เลยด้วยซ้ำ และยังพบว่าคนรุ่นใหม่มักจะเลือกโปรแกรมที่เหมาะกับพวกเขามากที่สุด ในขณะที่คนอายุ 30 ขึ้นไปมักจะเลือกใช้โปรแกรมที่หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานเลือกใช้ร่วมกัน
แล้วคนรุ่นใหม่ไม่ชอบใช้อีเมลเพราะอะไรกันนะ ลองมาฟังเสียงของพวกเขากัน อดัม ซิมมอนส์ (Adam Simmons) ได้เริ่มก่อตั้งบริษัทโปรดักชั่นเป็นของตัวเอง ที่ลอสแอนเจลิส ในวัยเพียง 24 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times เกี่ยวกับอีเมลไว้ว่า “จะใช้อะไรก็ได้ ก็ได้จริงๆ แต่ไม่ใช่อีเมล มันเป็นเหมือนที่ที่รวมความเครียดเอาไว้และใช้งานยากกว่าเดิม พอมองเข้าไปในกล่องขาเข้า คุณต้องเรียงลำดับความสำคัญ ระหว่างอีเมลแจ้งเก็บค่าเช่า อีเมลจาก Netflix ซึ่งมันค่อนข้างเป็นด้านลบกับชีวิตซะมากกว่า” นั่นเพราะจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเขา คือ การใช้อีเมลคุยเรื่องงานแต่มันดันไปโผล่ในถังขยะแทนน่ะสิ ซึ่งก็เป็นอีกปัญหาโลกแตกสำหรับคนใช้อีเมล
โดยเขามักจะใช้ Zoom calls และ Instagram messages สำหรับการพูดคุยสื่อสารในทีม เอาล่ะ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยแล้วว่า โปรแกรมพวกนั้นมันจะคุยสะดวกได้ยังไงกัน มันมีไว้สำหรับไลฟ์สไตล์ไม่ใช่หรอ ก็ขอพาย้อนกลับไปที่ผลสำรวจของ Fastcompany อีกครั้ง ที่บอกว่าคนรุ่นใหม่มักจะเลือกโปรแกรมที่พวกเขารู้สึกว่าเหมาะกับพวกเขามากกว่า ซึ่งนั่นก็ดูจะไม่เกินจริงเท่าไหร่นัก
มองเผินๆ อาจเป็นเหมือนเรื่องของเทคโนโลยี แต่ภายใต้การทำงานร่วมกันของผู้คนหลากหลายวัย ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นจากช่องว่าระหว่างวัย (Generation Gap) ลองนึกภาพดูว่าคนรุ่นหนึ่ง เกิดในยุคที่ประโยค “You’ve Got Mail” ได้ปรากฎขึ้นในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกใน ค.ศ.1998 แต่กับคนอีกรุ่นหนึ่ง พวกเขาเพิ่งอยู่ชั้นอนุบาลในยุคขาลงของ Gmail แต่ทว่าพวกเขาเติบโตมาพร้อมช่องทางอื่นๆ ที่โตมาพร้อมกับพวกเขาเช่นกัน แม้คนรุ่นใหม่จะทันใช้อีเมลอยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในฐานะของการสมัครสมาชิกเว็บไซต์ต่างๆ โปรแกรมต่างๆ มากกว่าการใช้เพื่อติดต่อสื่อสารอย่างผู้คนอีกรุ่นที่อายุมากกว่า
แล้วอะไรจะมาแทนที่อีเมลได้?
เมื่อผลัดเปลี่ยนเจเนอเรชั่นไป คนรุ่นใหม่ในวันนี้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ หากอีเมลได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อยๆ กว่าจะถึงวันนั้น อีเมลอาจทำหน้าที่เป็นเพียง id สำหรับการสมัครสมาชิกต่างๆ จนผู้คนหลงลืมฟังก์ชั่นของการสื่อสารของมันไปแล้ว และกว่าจะถึงวันนั้นอีกเช่นกัน คงมีช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ ที่สะดวกยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ของพวกเขามากขึ้น
ถามว่าอะไรจะมาแทนที่ได้ เราเองก็ยังไม่รู้เช่นกัน แต่สุดท้ายแล้ว เจเนอเรชั่นที่ยืดหยุ่นก็จะแสวงหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเองได้ในสักวัน แม้มันจะไม่เหมาะในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า พวกเขาก็คงสามารถหาสิ่งใหม่ให้ตัวเองไปได้เรื่อยๆ
อ้างอิงข้อมูลจาก