จะเข้ามหาวิทยาลัยที นอกจากเตรียมตัว อ่านหนังสือสอบแล้ว ยังต้องเตรียมเงินเพื่อสมัครสอบด้วย!
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้ประกาศกำหนดการ ปฏิทินการสอบ TCAS ประจำปีการศึกษา 2563 ออกมาแล้ว โดยปีนี้ สามารถสมัคร และยื่นได้ 5 รอบเหมือนเดิม ซึ่งแต่ละรอบต่างก็มีค่าใช้จ่ายทั้งค่าสมัคร และค่าสอบ ที่บางคณะต้องสอบมากถึงหลายวิชาด้วย
The MATTER ได้สำรวจค่าใช้จ่ายในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในระบบ TCAS ว่า ต้องมีเงินเท่าไหร่ ในการสมัครสอบแต่ละรอบ และแต่ละรอบนั้น ต้องใช้คะแนนอะไร ค่าสอบเท่าไหร่บ้าง ?
TCAS รอบที่ 1 Portfolio (2 ธันวาคม 2562 – 4 กุมภาพันธ์ 2563)
รอบแรก คือการยื่นพอร์ตฟอลิโอ โดยเป็นการยื่นแฟ้มสะสมผลงานให้กับทางคณะ ซึ่งค่าธรรมเนียมการสมัครขึ้นอยู่กับคณะ และมหาวิทยาลัยเป็นคนกำหนดเอง รอบนี้จึงมีค่าสมัครตั้งแต่ 200-1,000 บาท และตัวนักเรียนสามารถยื่นได้มากกว่า 1 ที่ และติดได้มากกว่า 1 ที่ด้วย
ค่าสมัครยื่นพอร์ตฯ ที่นักเรียนต้องจ่ายแล้ว ส่วนใหญ่ทางคณะจะขอคะแนนความสามารถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความสามารถทางภาษา ทางคณิตศาสตร์วิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ หรือทางการแพทย์ด้วย ซึ่งค่าสอบแต่ละอย่างก็แตกต่างกันไป มีค่าสอบที่แพงที่สุดคือ IELTS ซึ่งเป็นการสอบทางภาษา ที่ 6,900 บาท และถูกที่สุดคือ การสอบทางภาษาของ ม.ธรรมศาสตร์ และ ม.ศรีนครินทรวิโรฒที่ราคา 500 บาท
นอกจากนี้ ยังมีค่าสอบอื่นๆ เช่น ภาษาที่ 3 และค่าธรรมเนียมตรวจสุขภาพในบางสาขาอย่างแพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์
TCAS รอบที่ 2 รับตรงโควตา
รอบที่ 2 คือการรับแบบโควตา ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องการสอบเอง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการสมัครสอบด้วย โดยรอบนี้มีค่าธรรมเนียมการสมัครสอบตั้งแต่ 200 – 600บาท และสามารถยื่นได้มากกว่า 1 ที่เช่นเดียวกับรอบแรก และติดได้มากกว่า 1 ที่เช่นกัน
รอบนี้ ยังต้องใช้คะแนนจากการสอบ GAT/PAT ที่มีค่าสอบวิชาละ 140 บาท (มีทั้งหมด 8 วิชา) คะแนนจากการสอบ 9 วิชาสามัญ ที่มีค่าสอบวิชาละ 100 บาท (ถ้าเลือกสอบครบทุกวิชา คือ 700 บาท) ซึ่งบางโครงการของแต่ละมหาวิทยาลัย ต้องยื่นคะแนนความสามารถทางภาษาเพิ่ม และต้องเสียค่าสอบวิชาเฉพาะของทางมหาวิทยาลัยเพิ่มอีกด้วย
TCAS รอบที่ 3รับตรงร่วมกัน
รอบที่ 3คือรอบรับตรงร่วมกัน โดยเป็นรอบที่ใช้คะแนนสอบกลาง และนักเรียนสามารถเลือกอันดับคณะที่ยื่นได้ถึง 6 อันดับ แต่ต้องเสียค่าเลือกอันดับละ 100 บาท และค่าบริหารจัดการสิทธิส่วนกลางอีก 50 บาท (ถ้าสมัครทั้ง 6 อันดับ จะเท่ากับ 650 บาท)ซึ่งตัวนักเรียนจะติดเพียง 1 อันดับเท่านั้น
ทั้งยังเป็นรอบที่ใช้ผลคะแนน GAT/PAT, 9 วิชาสามัญ และวิชาเฉพาะของแพทย์ หรือ กสพท.อีก 800 บาทด้วย
TCAS รอบที่ 4 Admission
รอบที่ 4 คือ Admission ซึ่งนักเรียนสามารถใช้คะแนนสอบกลางได้เช่นกัน และสามารถเลือกอันดับได้ 4 อันดับ โดยมีค่าสมัคร100 บาทในอันดับแรก และอันดับต่อไปเพิ่มอีก 50 บาท (ถ้าเลือกทั้ง 4 อันดับ ค่าใช้จ่ายก็จะอยู่ที่ 250 บาท)ซึ่งจะติดเพียง 1 อันดับเท่านั้น
รอบนี้ จะใช้คะแนน GAT/PAT และ O-Net ซึ่งการสอบนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย
TCAS รอบที่ 5 รับตรงอิสระ
รอบสุดท้ายคือ รอบรับตรงอิสระ ที่มีอัตราค่าสมัครตั้งแต่ 300 – 1,000 บาท ซึ่งคณะ และมหาวิทยาลัยจะกำหนดค่าธรรมเนียมในการรับสมัครเองอย่างอิสระ โดยสามารถยื่นได้มากกว่า 1ที่ ติดได้มากกว่า 1 ที่ แต่เลือกได้เพียงที่เดียวเท่านั้น
รอบนี้จะใช้คะแนน O-Net, GAT/PAT และ 9 วิชาสามัญด้วย
โดยถึงแม้ว่า จะมีการสอบ O-Net ที่สามารถสอบได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ว่าถ้าจะตัดสินใจสมัครในแต่ละรอบก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วย เช่น ถ้าตัดสินใจสมัคร TCAS รอบที่ 4 (Admission) ก็ต้องใช้คะแนนGAT/PAT ที่มี8 วิชาและค่าสอบวิชาละ 140 บาทควบคู่ ซึ่งถ้าเลือกสอบ GAT/PAT2 วิชา ก็จะมีค่าใช้จ่ายแล้ว280 บาท รวมค่ายื่นอันดับละ100 บาท แปลว่าอย่างน้อย ถ้ายื่นเพียงคณะเดียวก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายแล้วอย่างน้อย 380 บาท
ซึ่งระบบที่ออกแบบมานี้ สะท้อนให้เราเห็นได้ถึงทั้งเรื่องโอกาสและตัวเงินที่เข้ามาเกี่ยวข้องกัน ในระบบสอบเข้ามหาวิทยาลัยของไทย
อ้างอิงจาก