หนังเรื่องล่าสุดของ Pixar อย่าง Coco กำลังจะเข้าฉายในบ้านเราแบบเต็มพิกัดในสัปดาห์นี้ อนิเมชั่นลำดับที่ 19 เรื่องนี้เล่าถึงดนตรีกับเทศกาลแห่งความตาย (Los Dias de los Muertos) ซึ่งมีหลายท่านที่ได้รับชมไปแล้วก็ชื่นชมและคาดว่าหนังจะไปได้ถึงออสการ์เลยล่ะ
ก่อนจะมาถึงจุดนี้ทาง Pixar เองก็ผ่านขั้นตอนต่างๆ กันมากมายอยู่ทีเดียวเชียว เพราะงั้นในวันนี้เราขอหยิบยกเรื่องน่ารู้ของทาง Pixar มาให้อ่านกัน เราเชื่อว่าคุณจะได้เห็นว่ากว่าที่พวกเขาจะมาถึงจุดๆ นี้ได้ พวกเขาได้ผ่านอะไรมามาก ในฐานะผู้กรุยทางให้อนิเมชั่นที่สร้างจากคอมพิวเตอร์กราฟิก และเหมือนว่าพวกเขาไม่คิดที่จะหยุดเฉยๆ ด้วย แม้ว่าหลายคนจะเริ่มมองว่า หลังๆ พวกเขาเอาบุญเก่ามาหากินแรงไปหน่อยก็ตามที
1. Pixar เดิมทีเป็นแผนกของ Lucasfilm

ภาพจาก : junkee.com
แรกเริ่มเดิมที Pixar ยังไม่ใช่สตูดิโออนิเมชั่นเต็มตัว แต่ เดิมทีแล้ว Pixar เป็นแผนกคอมพิวเตอร์กราฟิก หรือถ้าบอกว่าเป็นแผนกพัฒนาอุปกรณ์สำหรับอนิเมชั่นด้วยคอมพิวเตอร์ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1979 ของทาง Lucasfilm น่าจะถูกต้องกว่า งานช่วงแรกของทีมก็คืองานทำเอฟเฟกต์ให้กับหนังเรื่องอื่นๆ ทั้งของ Lucasfilm เองอย่าง Star Wars : Return Of The Jedi หรือหนังเรื่องอื่นอย่าง Young Sherlock Holmes เป็นอาทิ
แต่ Lucasfilm ก็ถูก Disney ซื้อไปในปี 2012 ส่งผลให้ตอนนี้ทั้งสองบริษัทกลับมาเป็นบริษัทลูก (ของดิสนีย์) เคียงข้างกันอีกครั้ง
2. อนิเมชั่นเรื่องแรกของพวกเขาไม่ใช่ Luxo Jr.

ภาพจาก : filmmunch.com
เพราะว่าเราเห็นภาพของ Luxo Jr. หรือโคมไฟจิ๋วก่อนที่หนัง Pixar จะฉายทุกเรื่องจึงมีคนเข้าใจผิดว่า อนิเมชั่นสั้นของเจ้าโคมไฟต้องเป็นงานชิ้นแรกของ Pixar แน่นอน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่นะ อนิเมชั่นเรื่องแรกของค่ายคืออนิเมชั่นขนาดสั้น 2 นาทีที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1984 หรือราวๆ 33 ปีที่แล้ว ซึ่งถ้าเอามาดูตอนนี้ภาพอาจจะไม่ว้าว แต่ ณ ยุคโน้นถือว่าโคตรล้ำ
3. แต่ Luxo Jr. ก็เป็นครั้งแรกของหลายๆ สิ่ง

ภาพจาก : awn.com
Luxo Jr. เป็นอนิเมชั่นขนาดสั้นออกมาฉายในปี 1986 หลังจากที่ Steve Jobs ทำการซื้อ Pixar ไปแล้ว ตัวงานถือว่าเป็นงานเรื่องแรกที่สร้างชื่อเสียงให้คนทั่วไปรู้จัก Pixar ในฐานะสตูดิโออนิเมชั่น เป็นอนิเมชั่นจากคอมพิวเตอร์เต็มตัวเรื่องแรกที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ และได้รางวัลออสการ์ในปีนั้น ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ดีของพวกเขาเลยล่ะ

ภาพจาก – kottke.org
อ้อ ส่วนครั้งแรกของ Luxo Jr. ที่ปรากฎตัวมาเหยีบตัว I ก่อนเข้าฉายหนังของ Pixar คือเรื่อง A Bug’s Life ส่วนโลโก้ก่อนหน้านั้นเป็นรูปเหลี่ยมๆ มีรอยบุ๋มตรงกลางซึ่งเอามจากตัวคอมพิวเตอร์ Pixar Image Computer ที่สร้างชื่อให้พวกเขานั่นเอง
4. ผู้ก่อตั้ง Pixar ไม่ใช่ John Lasseter และ Steve Jobs นะ

Edwin Catmull, ภาพจาก : blog.ycombinator.com
ถึง John Lasseter จะเป็นบุคลากรคนสำคัญของ Pixar และเป็นหนึ่งในทีมงานแรกเริ่มแต่เขาก็ไม่ใช่ผู้ก่อตั้ง Pixar และถ้าจะใช้คำว่าผู้ก่อตั้งกับ Steve Jobs ที่เข้ามาซื้อ Pixar ในภายหลังก็คงไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก ดังนั้นเราต้องขออ้างอิงตามเอกสารการซื้อขายบริษัท Pixar ที่มีการระบุไว้ชัดเจนว่า ผู้ก่อตั้งร่วมของ Pixar คือ Edwin Catmull กับ Alvy Ray Smith

Alvy Ray Smith, ภาพจาก : newstalk.com
ปัจจุบัน Edwin Catmull เป็นประธานของ Pixar และ Walt Disney Animation Studios (อันเป็นผลพวงจากการซื้อบริษัท) ส่วน Alvy Ray Smith ออกจาก Pixar ไปตั้งแต่แยกตัวจาก LucasArts ไม่นาน สาเหตุการออกจากบริษัทนั้น… ถูกบอกเล่าผ่านหนังสือชีวประวัติของ Steve Jobs กับ หนังสือประวัติศาสตร์ของ Pixar ว่า … เพราะ Alvy เถียงกับ Steve Jobs เรื่องใช้ไวท์บอร์ดที่ปกติแล้วมีแค่ Steve ใช้คนเดียว จนเรื่องบานปลายกลายเป็นการลาออก ทั้งๆ ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท
ทั้งนี้ ผู้ก่อตั้งทั้งสองคนไม่ได้เป็นอนิเมเตอร์โดยตรง อย่าง Edwin Catmull ก็เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ส่วน Alvy Ray Smith ก็จบด้านวิศวกรรมไฟฟ้า แต่สุดท้ายทั้งสองท่านนี้ต่างพัฒนาโปรแกรมและคอมพิวเตอร์ด้านกราฟฟิกในที่สุด
5. ห้าข้อ ‘ไม่ปฏิบัติ’ ของ Pixar
การที่ Pixar สามารถทำหนังให้ประสบความสำเร็จได้ ทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นสตูดิโออนิเมชั่นเต็มตัวที่มีอายุน้อยกว่าหลายเจ้า (ตอนเปิดตัวนะ ตอนนี้ก็มีอายุเยอะพอสมควรแหละ) แปลว่าต้องมีเคล็ดลับกันบ้าง ซึ่ง Andrew Stanton ผู้กำกับ Finding Nemo และ Wall-E รวมถึงเป็นพนักงานรุ่นก่อตั้งเคยกล่าวไว้ในงาน TED Conference ในปี 2012 ว่าทาง Pixar มีกฏลับในการทำงานด้วยการ ‘ไม่’ ทำสิ่งเหล่านี้ลงไปในหนัง
- ไม่มีเพลง (No Songs)
- ไม่มีเนื้อเรื่องช่วง “ฉันอยากได้ไอ้นั่นไอ้นี่” ในหนัง (No “I want” moments)
- ไม่มีหมู่บ้านแสนสงบสุข (No happy village)
- ไม่มีเรื่องรัก (No love story)
- ไม่มีตัวร้าย (No villian)
ซึ่งกฎลับแบบนี้เกิดขึ้นมาเพราะ Disney แฟกซ์กฎห้าข้อที่ต้องทำ ตอนนั้น Pixar ยังละอ่อนในวงการ เลยห้าวเป้งช่างหัวกฎ เพื่อสร้างงานที่ต่างจากคนอื่นในตลาด และต้องขอบคุณความเยาว์วัย ณ ตอนนั้นที่ทำให้หนังของพวกเขาโดดเด่นจนถึงวันนี้ แม้ว่าหลังๆ พวกเขาจะยอมปรับกฎบางอย่างลง แต่แนวคิดที่ว่า ‘ทำอะไรไม่เหมือนกับคนอื่นในตลาด’ ยังคงเป็นแนวทางของพวกเขาอยู่
6. ศึกษาเรื่องจริงอย่างลงลึกก่อนทำเรื่องแต่ง

ฉากปากปลาวาฬที่สมจริง มาจากการทุ่มตัวมุดปากปลาวาฬของจริงของทีมงาน Pixar, ภาพจาก : businessinsider.com
ถึงภาพจะออกมาดูเด็กๆ น่ารัก แต่ Pixar เป็นทีมงานที่จริงจังในการทำอนิเมชั่นอยู่เสมอ นับตั้งแต่ Toy Story ที่อนิเมเตอร์ส่วนหนึ่งลงทุนใส่รองเท้าที่ติดอยู่บนแผ่นไม้เพื่อที่จะสร้างภาพอนิเมชั่นทหารพลาสติก ให้ถูกต้อง / ส่งให้ทีมอนิเมเตอร์ไปเรียน มีนวิทยา (Ichthyology) เพื่อให้ทำอนิเมชั่นสัตว์ใต้ทะเลต่างๆ ได้ไม่ผิดจากความจริงใน Finding Nemo / การเลี้ยงหนู (เข้าใจว่าเป็นพวกแฮมสเตอร์) ในสตูดิโอระหว่างที่ทำเรื่อง Ratatouille ฯลฯ

ภาพจาก – billboard.com
ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดเองอย่าง Coco เองก็ยังคงจริงจังในการทำงานเหมือนเดิม การเล่นกีตาร์ภายในเรื่องก็เป็นการทำอนิเมชั่นตามเด็ก (ลูกๆ ของทีมงาน) ที่หัดเล่นกีตาร์จริงๆ เพราะฉะนั้นฉากเล่นกีตาร์ในเรื่องส่วนใหญ่จะดีดตรงกับคีย์จริงๆ หรืออย่างดอกไม้ประกอบฉากพวกเขาก็เลือกใช้ดอกดาวเรืองที่สอดคล้องกับความเชื่อของชาวเม็กซิโกว่าเป็นดอกไม้ที่จะนำทางคนตายให้กลับสู่บ้านของคนที่พวกเขารักได้ในช่วงเทศกาลแห่งความตาย
7. จริงจังจึงต้องทำนาน
ความจริงจังในการทำอนิเมชั่นของ Pixar นี้ก็ต้องแลกมากับขั้นตอนการทำงานที่เดิมทีนั้นต้องใช้เวลาในการทำอนิเมชั่นเรื่องหนึ่งราว 3-5 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้นหากนับช่วงการพัฒนาบทด้วย ไม่ใช่ว่าทีมงานอู้หรือกำไรจัดจนไม่ต้องรีบสร้างงาน แต่เพราะการทำภาพกราฟฟิกนั้นกินเวลาเอาเรื่องกว่าจะเรนเดอร์เสร็จ ซึ่งถ้านับเป็นระยะเวลาเรนเดอร์เพียวๆ ต่อเรื่อง ก็กินเวลาราวๆ 2 ปีในเวลาจริง

ภาพจาก : disney.com
ตัวอย่างที่ทาง Pixar พอจะบอกเล่าให้คนนอกแบบเราฟังก็คือ Monster Inc. ในฉากที่ Sully ปรากฎตัวเนื่องจากตัวเอกตัวนี้มีขนฟูให้เรนเดอร์แยกย่อยเพียบ แม้จะใช้คอมพิวเตอร์แรงสูงใน Pixar รวมกันเรนเดอร์ (ณ ตอนนั้นนะ) หนึ่งเฟรมก็อาจจะกินเวลาไป 11-12 ชั่วโมงแล้ว
แต่พอมาช่วงหลังจากทีมงานที่ใหญ่ขึ้น เทคโนโลยีที่ดีขึ้น ขั้นตอนบางอย่างก็ลดเวลาลงไป อย่างที่เห็นว่าปี 2015 กับปี 2017 ก็มีหนังของ Pixar เข้าฉายได้ถึงปีละสองเรื่องแล้ว
8. จริงจังในการพากย์

Mary Gibbs ในวันเปิดตัวภาพยนตร์ Monster Inc., ภาพจาก : disney.wikia.com
เรื่องพากย์เอง Pixar ก็จริงจัง อย่างเสียงของ Boo นั้นก็ไปเก็บเสียงพากย์ของ Mary Gibbs ตอนที่เธออายุ 5 ขวบ ด้วยการถือไมค์วิ่งไล่เด็กน้อยที่ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ ตามประสาเด็ก (พร้อมความร่วมมือของพ่อที่เป็นคนเขียนสตอรี่บอร์ดด้วยนะ) หรืออย่าง Dash จาก The Incredibles ที่ต้องมีฉากวิ่งจนหอบ ผู้กำกับของเรื่องก็สั่งให้นักพากย์วิ่งมันรอบสตูดิโอให้อาการของเสียงสมจริงนั่นล่ะ
ซึ่งชวนสงสัยนิดหน่อยว่าไม่โดนข้อหาใช้แรงงานเด็กเกินควรหรือเปล่า เพราะคนพากย์ Dash ตอนนั้นอายุราวๆ 10 ขวบเอง
9. ดาราดังจำนวนหนึ่งเคยปฏิเสธการพากย์เสียงให้ Pixar
ขอวนเวียนกับเรื่องนักพากย์เล็กน้อย ก่อน Pixar จะประสบความสำเร็จนั้น พวกเขาเคยถูกดาราดังปฏิเสธในการพากย์เสียงมาหลายคน อาทิ Billy Crystal เคยปฏิเสธการพากย์ Buzz Lightyear เช่นเดียวกับ Paul Newman ที่เคยปฏิเสธการพากย์ Woody รวมถึง Jim Carrey และ Bill Murray

เคยพลาดกับ Toy Story ไปแล้วโชคดีที่ Pixar ยังสนใจให้เขาพากย์อยู่ใน Monster Inc. / ภาพจาก – ew.com
เมื่อหนังปังเปรี้ยงกว่าที่คาด Billy Crystal ถึงขั้นเคยให้สัมภาษณ์ว่าการตัดสินใจไม่พากย์ Toy Story เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตแต่ Pixar ก็วนเวียนติดต่อดาราเหล่านี้อีกครั้ง อย่าง Billy Crystal สุดท้ายก็ได้พากย์ Monster Inc. ส่วน Paul Newman ก็กลับมาพากย์ให้ใน Cars 3 และนั่นก็เป็นบทบาทการแสดงสุดท้ายของชีวิตของดาราท่านนี้
Bill Murray ยังไม่ยอมมาพากย์ แต่ได้ Joel Murray น้องชายมาพากย์ตัวละครใน Monsters University ที่ Pixar เคยอยากให้ Bill มาพากย์ เหลือแค่ Jim Carrey ที่ตัวเขาและพี่น้องยังไม่ได้มาพากย์อะไรในหนังของ Pixar
10. John Ratzenberger อีกหนึ่งสิ่ง ที่โผล่ในหนัง Pixar ทุกเรื่อง
นอกจากที่ Pixar จะมีรถ Pizza Planet Truck กับ ตัวเลข A113 ที่เป็นเลขห้องเรียนของผู้บริหาร Pixar หลายคนมาปรากฏเป็น Easter egg ในหนัง Pixar เกือบทุกเรื่องแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นของประจำ Pixar ทุกเรื่องคือการให้ John Ratzenberger มาพากย์เสียงนั่นเอง

ภาพจาก – twitter.com/dratzenberger
John Ratzenberger พากย์เสียงทั้งตัวละครสมทบที่โดดเด่น อย่าง Hamm the Piggy Bank ใน Toy Story ทุกภาคหรือ Mac The Truck ใน Cars ทุกภาค และในเรื่องอื่นๆ ก็มาพากย์เสียงบทตัวประกอบ และตอนนี้ทางผู้บริหาร Pixar บางคนก็ถือว่าเขากลายเป็น ‘เครื่องรางนำโชค’ ของค่ายไปซะอย่างงั้น
11. Coco คือการเริ่มครั้งแรกหลายประการของ Pixar

ภาพจาก : channel24.co.za
อนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของ Pixar อย่าง Coco ถ้ามองในแง่มุมหนึ่งหลายคนก็อาจจะเห็นว่าก็แค่เป็นการต่อยอดความสำเร็จของบริษัทผู้สร้างอนิเมชั่นจนเชี่ยวชาญแล้วเท่านั้น แต่เราพบว่าหลายอย่างในหนังเรื่องนี้เป็น ‘ครั้งแรก’ ของ Pixar ในการลองทำอะไรหลายๆ อย่างเลยล่ะ
- เป็นครั้งแรกที่ Pixar หยิบเอาวัฒนธรรมของประเทศเม็กซิโกมาบอกเล่าแบบเต็มมือ
- เป็นครั้งแรกของ Pixar ที่ตัวเอกไม่ใช่ตัวละครชาวคอเคซอยด์
- ครั้งแรกที่หนัง Pixar ออกฉายปกติในเม็กซิโกก่อนประเทศอื่นๆ เกือบเดือน
- ถ้าบอกว่านี่ถือเป็นเรื่องแรกของ Pixar ที่แหกกฎ ‘ไม่มีเพลง’ ของตัวเองก็ไม่ผิดนัก แต่ทำยังไงได้ เพราะดนตรีถือเป็นปมสำคัญของหนังเลย ดังนั้นทางเทคนิคแล้ว Coco ถือว่าเป็นการ์ตูนเพลง/เกี่ยวกับเพลง เรื่องแรกของ Pixar
แต่ที่ไม่ใช่ครั้งแรกคือการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความตายเพราะ Pixar แอบใส่เรื่องราวที่เหมือนจะเหมาะสมเฉพาะผู้ใหญ่ลงในหนังครอบครัวนานแล้ว (ที่ชัดเจนคือช่วงองก์แรกของ Up) และถ้าใครรู้สึกว่าทำไมเรื่องเล่าสำหรับเด็กถึงมีเรื่องความตายมาเกี่ยวข้องอยู่บ่อยๆ อันนี้ The MATTER ก็จะมาบอกเล่ากันในเร็วๆ นี้นะ
อ้างอิงข้อมูลจาก
hbr.org/2012/02/could-pixars-secret-story-guid
pixar-animation.weebly.com/pixars-animation-process.html