แม้ประเทศมหาอำนาจจะอยู่ห่างกับเราคนละฟากโลกแต่ในเมื่อเด็ดดอกไม้ยังสะเทือนถึงดวงดาวได้ แล้วประสาอะไรกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ซึ่งย่อมมีผลกระทบทั้งดีและร้ายไปทั้งโลกแน่นอน
ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาใกล้เข้ามาทุกทีๆ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกันที่ใครๆ ก็เคยมองว่าเขาเป็นเพียงตัวสร้างสีสันเท่านั้น แต่ตอนนี้กระแสทรัมป์ฟีเวอร์กลับกระจายไปทุกหย่อมหญ้า โดยเฉพาะผลการเลือกตั้ง ‘ซูเปอร์ทิวส์เดย์’ จาก 10 มลรัฐเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาที่ยืนยันความปากร้ายแต่ได้ดีอย่างฉุดไม่อยู่ของเขาให้ชัดเจนขึ้นไปอีก
ถ้าทรัมป์เป็นประธานาธิบดีแล้วไง ใครแคร์หรอ?
แม้การหาเสียงส่วนใหญ่ของทรัมป์จะเป็นการพูดไปอย่างกว้างๆ ไม่มาลงลึกในรายละเอียดหรือหลักการว่าทำได้จริงมั้ย (ตามประสามหาเศรษฐีผู้ขาดประสบการณ์ทางการเมือง) แต่แทบทุกนโยบายของเขากลับขวาตกขอบจนหลายๆ ฝ่ายอดเป็นกังวลไม่ได้ วันนี้ The matter จึงอาสาพาเราเข้าไปสำรวจ 5 นโยบายตกขอบของทรัมป์ว่าจะสร้างผลกระทบให้เรา ให้สหรัฐอเมริกา และให้โลกขนาดไหนกัน
1. บ๊ายบายมุสลิม ถ้าปรับความคิดไม่ได้ ก็ไม่ต้องเข้าประเทศเรา
ความคิด ความเชื่อเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล อันนี้ใคร ๆ ก็รู้ แต่ก็ต้องเหวอกันไปทั้งโลกเมื่อทรัมป์ออกมาประกาศชัดว่าสหรัฐฯ ควรสั่งปิดชายแดนไม่ให้ชาวมุสลิมเข้าประเทศ จนกว่าชาวมุสลิมจะปรับเปลี่ยนทัศนคติและวิธีคิดเกี่ยวกับสหรัฐฯได้
อ่านไปก็เอียงคอสงสัยไปว่ามีใครสนับสนุนวิธีคิดแบบนี้ด้วยเหรอ? ก็ต้องบอกเลยว่าอย่าดูถูกทรัมป์! เพราะด้วยแนวนโยบายนี้ทำให้ทรัมป์ได้คะแนนนิยมเพิ่มสูงถึง 41% ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อใช่ไหมล่ะ
สำหรับใครที่ยังงงๆ ว่าแล้วมันเกี่ยวข้องกับฉันยังไง The matter อยากให้มองในภาพกว้างไปถึงภูมิภาคที่เราอาศัยอยู่ อย่าลืมว่า 4 ใน 5 ประเทศที่มีประชากรชาวมุสลิมอาศัยอยู่มากที่สุดในโลกตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะเพื่อนบ้านของเราอย่างมาเลเซียและอินโดนิเซียที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่เพียงแค่นั้นนโยบายนี้ของทรัมป์จะกีดกันสหรัฐอเมริกาออกจากสารพัดความสัมพันธ์กับโลกมุสลิมแน่นอน
2. กำแพงเมืองจีนก็ต้องอาย เมื่อกำแพงสหรัฐ Vs. เม็กซิโกกำลังมา
แนวคิดเรื่องกำแพงเมืองจีนที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันพวกเร่ร่อนทางตอนเหนือของจีนเมื่อ 2,000 กว่าปีมาแล้ว เป็นแนวคิดเก่าแก่ที่เราก็คิดว่าคงไม่มีใครคิดกันแล้วมั้ง the matter บอกได้เลยว่าคิดผิด! เพราะทรัมป์ประกาศชัดเจนว่าเขาพร้อมสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดนเพื่อกั้นระหว่างสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก
สร้างไม่สร้างเปล่าเพราะจะบังคับให้รัฐบาลเม็กซิโกเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วย เอากับเขาสิ! ส่วนเหตุผลที่ต้องสร้างก็เป็นเพราะป้องกันไม่ให้ชาวเม็กซิโกอพยพเข้ามาในประเทศ ที่สำคัญลุงทรัมป์ยังบอกว่า ชาวเม็กซิโกล้วนเป็นอาชญากรทางเพศทั้งนั้น
นอกจากแนวนโยบายจะเก่าแก่จนกำแพงเมืองจีนยังต้องอาย ยังทำลายความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างย่อยยับเป็นชิ้นๆ กันเลยทีเดียว
3. เป็นประธานาธิบดีทั้งที พี่ขอฉีกความร่วมมือทางเศรษฐกิจอันยาวนานทิ้งหน่อยนะ
นอกจากขึ้นชื่อเรื่องปากพาจนแล้ว ทรัมป์ยังโดดเด่นในเรื่องการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วย โดยอีกหนึ่งนโยบายตกขอบคือการจะฉีกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Trans-Pacific หรือ TPP) ซึ่งมีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปี 1998 ทิ้งไป
ถ้านโยบายนี้สำเร็จขึ้นมาเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกจะต้องได้รับผลกระทบครั้งสำคัญอย่างที่เราคาดไม่ถึงแน่ๆ
4. โลกร้อนไม่มีจริง! มันก็แค่เรื่องกุขึ้น
โลกจะกำลังร้อนขึ้นๆ จริงไหม เป็นสิ่งที่ต้องถกเถียงกันทางวิทยาศาสตร์ด้วยสารพัดทฤษฎีกันอีกนาน แต่ทรัมป์ไปไกลกว่านั้นมาก เพราะเขาฟันธงไปเลยว่า โอ๊ยยย โลกร้อนอะไร สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่มีหรอก!
การฟันธงลงมาแบบนี้ก็ย่อมมีผลต่อแนวนโยบายของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และนี่คงเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่จะสะเทือนไปทั้งโลก โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียที่เราอาศัยกันอยู่นี่แหละ เพราะเราเป็นภูมิภาคที่กำลังมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งใช้ทรัพยากรจำนวนมากและเต็มไปด้วยมลพิษอยู่แล้ว หากได้รับไฟเขียวจากสหรัฐอเมริกาเราก็ยิ่งเพิ่มการปล่อยมลพิษคาร์บอนทำลายสิ่งแวดล้อมกันไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
5. การค้าระหว่างประเทศทั่วโลกเตรียมปั่นป่วน
แม้การค้าระหว่างประเทศจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องอาศัยการเจรจากัน แต่ทรัมป์ก็เด็ดเดี่ยวมาดมั่นมาโดยตลอดว่าเขาพร้อมจะแข็งกร้าว และดึงการผลิตของธุรกิจสหรัฐฯ ในต่างประเทศให้กลับเข้ามาผลิตในประเทศ ซึ่งนักวิเคราะห์ก็มองว่า เดี๋ยวนะๆ นี่มันตรงกันข้ามกับหลักการค้าเสรีเลยนี่นา
แล้วมันจะส่งผลกับตลาดการค้าทั่วโลกยังไงล่ะ? ความแข็งกร้าวของทรัมป์ครั้งนี้จะนำไปสู่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับอีกหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะกับจีน ซึ่งจีนก็ไม่ใช่แค่ประเทศคู่ค้าของสหรัฐเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ลงทุนอันดับหนึ่งในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และถ้าเกิดข้อพิพาทขึ้นจริงล่ะก็ บอกได้เลยว่าอาจจะลุกลามจนกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์และตลาดเงินทุนทั่วโลกได้
ไม่น่าเชื่อเลยว่าถ้ามีผู้นำผิด ชีวิตจะเปลี่ยนได้ถึงขนาดนี้ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์หลายๆ ฝ่ายก็พากันออกมาให้ความเห็นว่า ไม่หรอกน่า ถึงทรัมป์ จะได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่เขาจะไม่ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯแน่ๆ
ก็ไม่รู้ว่าสิทธิเสรีภาพที่เราชอบอ้างว่า แหม สหรัฐอเมริกานี่เสรีเกินขอบเขตไปหน่อยไหม ถ้าได้เจอความไม่เคารพสิทธิเสรีภาพแบบตกขอบอย่างลุงทรมป์แบบนี้ขึ้นมาบ้างจะเป็นยังไง หรือที่เบ้ปากใส่ความปากร้าย ขยันพูดอะไรทำลายมิตรและเป็นศัตรูกับหลายประเทศทั่วโลกอย่างลุงทรัมป์ แต่พอลองตัดภาพมาเป็นลุงตู่ทำ เราอาจบอกว่าไม่เคารพสิทธิเสรีภาพไม่เป็นไร ขอให้เป็นคนดีก็พอ แหม่ ลุงทรัมป์อาจจะประสบความสำเร็จได้ใจประชาชนไปอีกคนเหมือนลุงตู่ก็ได้เนอะใครจะรู้
อ้างอิงข้อมูลจาก
posttoday.com
news.voicetv.co.th
dailynews.co.th
http://www.barrons.com/articles/asias-president-trump-nightmare-1454374248
http://www.komchadluek.net/detail/20160306/223596.html
http://www.tnamcot.com/content/428533