หากต้องตอบว่าสิ่งประดิษฐ์ใดที่ปลี่ยนโลกมนุษย์มากที่สุด คำตอบส่วนใหญ่อาจเทไปทางเทคโนโลยีแสนซับซ้อน อย่างคอมพิวเตอร์ กระแสไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์กลไกต่างๆ แต่อาจจะลืมวัตถุกลมที่หมุนได้แสนเรียบง่ายอย่าง ‘ล้อ’ ที่ทำให้มนุษย์เดินทางได้ไกลกว่าที่เคย
ช่วยทุ่นแรงขนของได้มากกว่าแรงคนจะไหว ขยับหน้าที่ไปหมุนเครื่องจักร หมุนเวลา และหมุนระบบเศรษฐกิจทั้งโลก ล้อจึงไม่ใช่แค่สิ่งประดิษฐ์ชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่คือกลไกที่เปลี่ยนวิธีที่มนุษย์เคลื่อนไหว คิด และสร้างอารยธรรมผ่านล้อกลมๆ นี้
แต่จะชี้ชัดว่าใครเป็นผู้ประดิษฐ์มันขึ้นมาก็ยากเหลือเกิน สิ่งประดิษฐ์นี้เกิดขึ้นมาบนโลกราว 6,000 ปีก่อน เป็นสิ่งประดิษฐ์พื้นฐานที่ผู้คนต่างใช้ร่วมกัน ไม่ได้มีใครเป็นเจ้าของสิ่งนี้อย่างแท้จริง เช่นเดียวกับสิ่งประดิษฐ์พื้นฐานในชีวิตอื่นๆ (รวมถึงวัฒนธรรมด้วย) เราจึงไม่ได้จะย้อนกลับไปค้นหานักประดิษฐ์อัจฉริยะที่สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาคนแรก แต่กลับไปไล่เรียงว่าในแต่ละยุคสมัย ผู้คนใช้ประโยชน์จากล้อกลมๆ ด้วยวิธีใด แล้วล้อขับเคลื่อนอารยธรรมนั้น ให้ไปข้างหน้าพร้อมกับมันอย่างไรบ้าง

หลายคนมักคิดว่าล้อเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ยุคแรกๆ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่มนุษย์ยังอุๆ อะๆ กันอยู่ แต่ล้อมันมาช้ากว่านั้นเสียหน่อย เพราะเกิดยุคเกษตรกรรมมาแล้ว ถึงจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้น
ล้อเก่าแก่ที่สุดในการขุดค้นทางโบราณคดี (แต่ก็ไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นล้อแรกในโลกหรือเปล่า) ถูกพบในดินแดนที่เคยเป็นผืนแผ่นดินอารายธรรมเมโสโปเตเมีย ประมาณ 5,500 ปีก่อน ล้อที่ค้นพบนี้ ไม่ได้มีหน้าที่ขนส่ง เคลื่อนย้ายสิ่งใดอย่างที่เราคุ้นเคยในวันนี้ แต่มันอยู่ในขั้นตอนหนึ่งของการปั้นหม้อ ยุคเกษตรกรรมมาถึง ผู้คนรู้จักปั้นหม้อ ปั้นไห ใช้เอง ล้อก็เกิดมาพร้อมกันในฐานะเครื่องมือปั้นหม้อ
ไม่ได้ปั้นแค่พอใช้กันเองในครัวเรือน แต่ล้อนี้ช่วยให้เมโสโปเตเมียเป็นเอกอุดมในด้านงานปั้น ทั้งมีคุณภาพ มีหลากหลายรูปทรง ขนาด รูปแบบ และวัสดุให้เลือกสรร และยังผลิตได้ในจำนวนมาก ล้อจึงเป็นคุณอนันต์สำหรับด้านงานช่าง
แล้วด้านการขนส่งล่ะ จะมาตอนไหน?

จากการศึกษาตีพิมพ์บนวารสาร Royal Society Open Science โดย ลี อาร์. อลาค็อก (Lee R. Alacoque), ริชาร์ด บูลเลียต (Richard W. Bulliet) และ ไค เจมส์ (Kai James) วิศวกรการบินและอวกาศจากสถาบัน Georgia Tech ได้ศึกษาแบบจำลองวิวัฒนาการของล้อ ทำให้เราเห็นถึงช่วงเปลี่ยนผ่านว่าล้อเปลี่ยนหน้าที่จากแวดวงการปั้น มาสู่การขนส่งได้อย่างไร
ในการศึกษานี้ นักวิจัยเสนอว่ามีนวัตกรรม 3 ประการ ที่ทำให้ล้อวิวัฒนาการขึ้นมา นวัตกรรมแรก คือ ลูกกลิ้งแบบมีร่อง ลองนึกภาพเป็นกล่องวางอยู่บนลูกกลิ้ง และลูกกลิ้งนั้นอยู่ในร่องขนาดพอดีกันเหมือนทางรถไฟ อาจใช้ตั้งแต่การขนย้ายผลไม้ในสวน ไปจนถึงขนย้ายของหนักๆ ในเหมือง
นวัตกรรมที่ 2 คือชุดล้อหรือล้อที่ยึดติดกับเพลา พบเห็นได้ในรถเข็นที่ใช้ในระยะสั้นๆ ไม่ใช่การขนส่งหรือเดินทางไกล
ส่วนนวัตกรรมที่ 3 ล้อเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระจากเพลา ช่วยเพิ่มความคล่องตัวยิ่งขึ้น ใช้ร่วมกับสัตว์ลากจูงที่เหมาะสม เช่น ม้าและวัว
จากวิวัฒนาการของล้อพอจะให้เราเห็นภาพว่า พอมีเพลาเข้ามาเสริมแล้ว ล้อได้เปลี่ยนหน้าที่เดิมจากแวดวงการปั้นไปโดยปริยาย แล้วกลายมาเป็นเครื่องมือทุ่นแรงในการขนย้ายสิ่งของหรือแม้แต่เดินทางไกล

แม้ข้อมูลหลายแหล่งชี้ไปที่เมโสโปเตเมียตอนใต้ว่าเป็นผู้ประดิษฐ์ยานพาหนะมีล้อก่อนเขาก่อนใคร แต่ในปัจจุบันนักวิชาการยังคงไม่ฟันธงในเรื่องนี้ เนื่องจากมีบันทึกการใช้งานยานพาหนะมีล้อ เกิดขึ้นเกือบพร้อมกันทั่วบริเวณแถบเมดิเตอร์เรเนียน
หน้าตาล้อยุคแรกนั้น ละม้ายคล้ายเป็นแผ่นกลมๆ ชิ้นเดียว ตรงกลางหนา แล้วไล่ความบางไปที่ขอบ ในสวิตเซอร์แลนด์และเยอรมนีตะวันตกเฉียงใต้ ล้อยุคแรกสุดถูกยึดเข้ากับเพลาหมุนผ่านเดือยสี่เหลี่ยม ทำให้ล้อหมุนไปพร้อมกับเพลา ในพื้นที่อื่นของยุโรปและตะวันออกใกล้ เพลาถูกยึดให้ตรงและล้อหมุนอย่างอิสระ เมื่อล้อหมุนได้อย่างอิสระจากเพลา คนเข็นสามารถหมุนรถเข็นได้โดยไม่ต้องฝืนลากล้อไปในทางที่ต้องการ
เมื่อกลไกพื้นฐานอย่างล้อและเพลา เดินทางมาถึงจุดที่ใช้งานได้จริงแล้ว ทำให้การเคลื่อนย้ายสินค้าหรือเดินทางได้เร็วขึ้น ยิ่งช่วยขยายขอบเขตของพื้นที่เกษตร ค้าขาย ส่งผลต่อการตั้งถิ่นฐาน การค้า และการแลกเปลี่ยนระหว่างภูมิภาค จึงอาจนับได้ว่าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกอย่างแท้จริง
หลังจากนั้นราว 2,000 ปีก่อน มีการพัฒนาเป็นล้อซี่ลวด ช่วยลดน้ำหนักล้อ ทำให้ยานพาหนะเคลื่อนที่เร็วขึ้น เน้นใช้กับยานพาหนะในสงครามและยวดยานที่ต้องการความคล่องตัวมากขึ้น โดยพบมากในแถบเอเชียไมเนอร์ (Anatolia) และอียิปต์

ล้อที่ขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้านี้ ถูกปรับใช้ให้เหมาะกับความต้องการของผู้คนในต่างอารายธรรม ใครใคร่ใช้ล้อลากจูงสินค้า ใครใคร่ใช้ล้อห้อตะบึงปลิดชีพศัตรู ใครใคร่ใช้ล้อพุ่งทะยานไปยังดินแดนที่ไม่เคยไปถึง
มันจึงไม่ได้เป็นแค่วงกลมที่หมุนได้ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง จากงานช่างสู่การขนส่ง พัฒนาไปสู่ยานยนต์ ก้าวเป็นส่วนหนึ่งในโครงสร้างโลกสมัยใหม่
ทว่าล้อที่ช่วยทุ่นแรงผู้คนได้มากมายนี้ กลับไม่เคยปรากฏในอารยธรรมอินคา สิ่งนี้ยังคงเป็นปริศนา (และมุกตลก) ว่าพวกเขาสร้างสิ่งต่างๆ ได้มากมาย แต่ทำไมกันถึงไม่เคยสร้างล้อมาใช้งาน
อ้างอิงจาก