วันนี้เป็นฤกษ์ดีศรีมงคลครบรอบการทำงาน 100 วันของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่เกรียงไกรไปเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา วันนี้ The MATTER จะขอพามาดูผลงานของเค้าใน 100 วันแรกกันดีกว่า ว่าไปได้ดี ไปได้ไกล พาอเมริกันยิ่งใหญ่อีกครั้งแล้วหรือยัง
*ชั่วฟ้าดินสลาย สัญญาใจทรัมป์ไงบอก เลือกแล้วไม่ลวงหลอก คนที่บอกอยู่ที่ไหน
ก่อนการเข้าดำรงตำแหน่งของนายโดนัล ทรัมป์ เขาได้ทำสัญญาใจไว้ 31 อย่างใน เราสรุปมาให้ 5 เรื่องหลักด้วยกัน มาดูสิว่า เค้ารักษาสัญญาเรื่องใดได้บ้าง
1. สาธารณสุข – ทรัมป์สัญญาว่าจะยกเลิกระบบประกันสุขภาพ “โอบาม่าแคร์” ที่ทรัมป์โนแคร์โนสน บอกว่าทำรัฐเสียงบประมาณไปมาก และจะเอาระบบใหม่ของตัวเองมาใช้แทนในทันที แต่จนถึงตอนนี้โอบาม่าแคร์ยังอยู่ ส่วนระบบใหม่ยังเถียงกันในสภาจ้า
2. คนต่างด้าว – สัญญาว่าจะส่งแรงงานเถื่อนกลับบ้านเกิด สร้างกำแพง และแบนมุสลิมไม่ให้เข้าประเทศ ตอนนี้ก็ส่งคนกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกำแพงยังไม่ได้สร้าง และเรื่องแบนทำไปนิด โดนจวกยับ ก็เลยระงับไป
3. สิ่งแวดล้อม – ทรัมป์รักษาสัญญาเรื่องนี้ดีที่สุดเลย ตั้งแต่หยุดจ่ายเงินให้ UN เพื่อทำโครงการลดโลกร้อน แถมยังสนับสนุนการใช้ถ่านหิน, น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ สวนทางกับกระแสรักษ์โลก รักษ์น้ำ รักปลา รักซากุระ ไว้ได้ตามที่หาเสียงเป๊ะเลย
4. ภาษีและการจ้างงาน – อันนี้ทรัมป์ก็รักษาสัญญาได้ดี๊ดีลดอัตราการเก็บภาษี เริ่มมีแผนการออกมาแล้ว และในเดือนกุมภาพันธ์มีรายงานว่ามีอัตราจ้างงานมากขึ้น 98,000 ตำแหน่งด้วยกัน และได้ ‘ทรัมป์’ ตามสัญญาอีกเรื่องที่ถอนตัวจากความตกลงหุ้นส่วนส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิคหรือ TPP ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ที่เข้ารับตำแหน่ง
5. คอรัปชั่น – ทรัมป์สัญญาไว้ตอนหาเสียงว่าจะล้างบางคอรัปชั่นในสภา และทรัมป์ตามสัญญาด้วยออกคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐที่ออกไปแล้ว ใช้ข้อมูลวงในที่ตัวเองเคยรู้ไปช่วยเหลือกลุ่มอิทธิพลอื่น หรือรัฐบาลประเทศอื่นๆ (ที่มีศัพท์เทคนิคว่า ‘ล็อบบี้’ นี่เอง) นอกจากป้องกันทุจริตแล้ว ยังป้องกันความลับของตัวเองไปพร้อมๆ กันด้วยเลย
*ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่ก็ยิงมิสไซล์
ใน 100 วันที่เข้มข้นของการทำงาน ทรัมป์สานสัมพันธ์ฉันเพื่อนสนิทกับประเทศต่างๆนาๆมากมายทั่วโลก แต่เพื่อนรักที่เราเห็นแนบชิดสนิทเป็นพิเศษก็คงจะหนีไม่พ้น เกาหลีเหนือ และซีเรีย
ทรัมป์และคิมจองอึนผู้นำเกาหลีเหนือ เพื่อนรักต่างวัยที่ถึงแม้จะอายุห่างกันถึง 43 ปี แต่ก็สามารถสานความสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว แค่เพียง 100 วันแรกก็มีข่าวการแสดงความรักผ่านการใช้อาวุธของทั้งคู่มาให้เราได้เห็นกันไม่เว้นแต่ละวัน ฝากถ้อยคำระลึกถึงกันผ่านสื่อต่างๆกันตลอด หรือไม่ว่าจะส่งเรือรบไปเยือนคาบสมุทรเกาหลี ความสัมพันธ์ของคู่รักต่างวัยคู่นี้คงจะยัง in relationship ให้เราได้ติดตามกันต่อไปท่ามกลางความร้อนแรงของคาบสมุทรเกาหลี ที่ทรัมป์เพิ่งบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ไปเองว่า “อาจจะมีการพบปะกันครั้งใหญ่”
ทรัมป์และอัสซาดประธานาธิบดีของซีเรียเองก็เป็นอีกหนึ่งคู่เพื่อนรัก ที่ไม่น้อยหน้าเกาหลีเหนือ ซึ่งทรัมป์มักจะมีของฝากไม่ว่าจะเป็นการโจมตีทางอากาศ ส่งกองกำลังทหารเข้าไปเยี่ยมเยียน หรือฝากความห่วงใยต่อซีเรียในเวทีอย่างสหประชาชาติเสมอ ทั้งยังมีการตั้งชื่อเล่นกุ๊กกิ๊กไว้เรียกส่วนตัวให้แก่อัสซาดว่า “An animal” ด้วย
*ผมรักเมกา ก็อยู่เมกา หลายปีหลายปี
นอกจาก White house ที่เป็นสถานที่สิงสถิตในการทำงานของทรัมป์แล้ว เฉลี่ยทุกๆ 1 ใน 5 นาทีการดำรงตำแหน่งของทรัมป์นั้นจะพบการปรากฎตัวเช็คอินอยู่ที่ Mar-a-lago Club สถานพักตากอากาศหรูติดชายหาด ในรัฐฟลอริดา หนึ่งในสถานที่โปรดซึ่งทรัมป์มักจะไปตีกอล์ฟพักผ่อนหย่อนใจคลายความเครียดจากความเหนื่อยล้าของงานในเกือบทุกสุดสัปดาห์ และยังคิดเป็นเงินภาษีในการไปพักผ่อนสุดสัปดาห์ของทรัมป์ได้เป็น 26.1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเลยทีเดียว แต่อย่างน้อยทรัมป์ก็ยังไปพักผ่อนแค่สุดสัปดาห์นะ บางประเทศเจ้าหน้าที่รัฐเค้าลาพักร้อนกันได้ 300 กว่าวัน แล้วยังได้รับเงินเดือนกันอีกด้วยนะจ๊ะ
แต่ถึงแม้จะหลั่นล้าตลอดสุดสัปดาห์ แต่สถิติการลากกระเป๋าเดินทางไปเช็คอินต่างประเทศของทรัมป์ตลอด 100 วันนั้นยังเท่ากับ 0 ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดเมื่อเทียบประธานาธิบดีคนก่อนๆ หรือแม้กับโอบามา อดีตประธานาธิบดีคนก่อน ที่เดินทางไปเยือนถึง 9 ประเทศ ใน 100 วันแรกของเค้า
รู้ไหมว่าใครใหญ่ แถวนี้พ่อใครใหญ่ รู้ไหมว่าใครใหญ่ พ่อมาใหม่
ตระกูลทรัมป์ เรียกได้ว่าเป็นตระกูลที่มีจำนวนสมาชิกอลังการโอ่อ่าตระกาล ซึ่งใน 100 วันแรกของทรัมป์เอง เขาก็ได้ใช้โมเดลสายสัมพันธ์ครอบครัวที่ดีรักใคร่กลมเกลียวมาช่วยทำมาหากินกันอีกด้วย
อิวานก้า ทรัมป์ลูกสาวคนโตของทรัมป์ ที่เปลี่ยนบทบาทจากนักธุรกิจสาวมาเป็นข้าราชการทำเนียบขาว ในตำแหน่งผู้ช่วยและที่ปรึกษาของคุณพ่อ โดยไม่รับเงินเดือน (ช่างแตกต่างจากบางประเทศที่จ้างเครือญาติกันมาทำงานแล้วยังจ่ายเงินเดือนจริงๆนะคะเนี่ย) แต่เธอก็ไม่ได้มาทำงานเพียงคนเดียว เธอยังมาเป็นคู่กับสามีของเธอ จาเร็ด คุชเนอร์ ก็พ่วงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์ด้วย
เมลาเนีย ทรัมป์ภรรยาคนล่าสุดของทรัมป์เองในบทบาทของ First Lady นอกจากการแต่งตัวและแฟชั่นที่โฉบเฉี่ยวของเธอแล้ว เราก็ยังไม่เห็นงานในบทบาทนี้อย่างเป็นชิ้นเป็นอันซักเท่าไหร่ และถึงแม้ว่าจะผ่านมากว่า 100 วันแล้ว เธอและลูกชายของเธอ บารอน ทรัมป์ ก็ยังไม่ได้ย้ายตามทรัมป์เข้าไปอยู่ในทำเนียบขาว แต่ยังประทับอยู่ที่ตึก Trump tower ของตระกูล
ไม่ใช่เพียงผู้ใหญ่ในตระกูลทรัมป์เท่านั้นที่มีส่วนช่วยทรัมป์ทำมาหากิน น้องอราเบลลา ลูกสาวของอิวานก้าเองก็มาช่วยคุณตาร้องเพลงเป็นภาษาจีนต้อนรับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนแผ่นดินมังกร ที่มาเยือนสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนเมษาที่ผ่านมาด้วย
*เสียไหม อย่างงี้มันเสียมั้ย เจอโพลก็อยากจะมุดลงดินลูกเดียว
Gallup daily ได้เปิดเผยโพลหลังเส้นทางความบากบั่นใน 100 วันของทรัมป์ว่า เปอร์เซ็นต์การยอมรับในตัวทรัมป์ตกลงมาน้อยลงที่สุดเหลือเพียง 36% เท่านั้น คุณพระ ! นี่มันต่ำกว่าเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำสุดของโอบาม่าตลอดการดำรงตำแหน่ง 8 ปีซะอีก นอกจากนี้เปอร์เซ็นต์การไม่ยอมรับในตัวของทรัมป์ในตอนนี้มันก็ยังสูงขึ้นมาถึง 57% ด้วย
แต่ถึงกระนั้น Center of Politics ของมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเอง ก็ได้เผยผลการสำรวจเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมานี้ว่า 93% จากจำนวน 1,000 คน ผู้โหวตทรัมป์ในการเลือกตั้งที่ผ่านมานั้น ยังเชื่อมั่นยืนยันเคียงข้างเมนเทอร์ทรัมป์ ซึ่งมีเพียง 7% เท่านั้น ที่แปรพักตร์ขอเลิกรักทรัมป์ไปซะแล้ว
*ไม่รู้ต้องรออีกนาน แค่ไหน ไม่รู้เมื่อไหร่ ที่เราจะพบกัน จะเหลือสักกี่ปี จะเหลือสักกี่วัน ที่ชีวิตฉัน จะอยู่ ได้พบและเจอเธอ
100 วันที่ผ่านมาถือเป็น 6.8% ของวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แม้เมนเทอร์มาช่าเค้าไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหน แต่สำหรับทรัมป์เรารู้แน่ว่าเหลืออีก 1,360 วันบนเส้นทางประธานาธิบดีของเค้า ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ในปี 2020 อีก 1,000 กว่าวันต่อจากนี้ เราคงได้ตามติดชีวิตทรัมป์และนโยบายของเค้ากันต่อไป ว่าจะส่งผลสะเทือนโลกกันไปอีกเบอร์ไหน
อย่างน้อยประชาชนชาวอเมริกันก็ยังนับถอยหลังรอคอยวันลงจากตำแหน่งของผู้นำและรอการเลือกตั้งครั้งใหม่ได้ ต่างจากบางประเทศที่ก็คงได้แต่รอแบบไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหนที่เราจะได้เลือกตั้งกัน
อ้างอิงข้อมูลจาก