จะช่วงวัยไหน งานกลุ่มก็อาจจะเป็นเรื่องน่าปวดหัวที่สุดอย่างหนึ่ง
ตอนอยู่โรงเรียน จะขอแม่ซื้อฟิวเจอร์บอร์ดหรือสันรูดทีก็เหมือนโลกจะแตก ครูก็ดุเหลือเกิน แต่ละคนก็ยังเด็ก เก้ๆ กังๆ ไม่รู้จะทำยังไง พอโตขึ้นมาเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ก็นึกว่าพอเจอกับคนโตขึ้นอะไรๆ จะดีขึ้น แต่ก็ยังไปเจอเพื่อนร่วมกลุ่มแปลกๆ อยู่ดี น่าแปลกที่ประสบการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับทุกคน ทุกที่ ทุกช่วงวัย ทุกสายการเรียน และทุกสายอาชีพ ฉะนั้น เรามาลองดูสมาชิกตัวถ่วงของกลุ่มที่ใครๆ ก็เคยเจอกันดีกว่า
เน้นพรีเซนต์ ไม่เน้นช่วยงาน
“เราไม่ค่อยได้ทำเลย แต่เดี๋ยวเราเป็นคนพรีเซนต์ให้ได้ไหม”
เขาคนนั้นมักพูดขึ้นเมื่องานเสร็จเกือบหมดแล้ว ตอนทำงานไม่เคยยื่นมือมาช่วย แต่เสนอตัวขอพรีเซนต์ตลอด ถ้าเป็นงานสมัยประถมก็คงทำได้ แต่พอโตขึ้นนี่ถ้าไม่รู้กระบวนการการทำงานเลยจะเอาอะไรไปพูด? แต่จะว่าก็ว่าเถอะ สำหรับบางคนก็มีพรสวรรค์หรือความมั่นใจสูงเสียจนผ่านมันไปได้ จนก็ได้หน้าไปคนเดียวก็มีเยอะแยะ และบ่อยครั้งคนนอกก็ไม่สามารถมองไปถึงเบื้องหลังกับคนทำงานอื่นๆ ได้ การได้หน้าจึงไปอยู่กับคนพรีเซนต์เพียงคนเดียวอยู่บ่อยๆ
ไปไหนไปด้วยกัน แต่มันไม่เคยช่วยเลย
“เอ้ย กลุ่มยังว่างอยู่ไหม?”
เขา 2 คนพูดขึ้นพร้อมกัน ชอบถามว่ากลุ่มยังว่างอยู่หรือเปล่าเพราะว่านั่นคือหน้าที่ของพวกเขา ผู้เติมกลุ่มที่ยังว่างให้เต็ม เป็นเราและนายสไตล์ตัวแถม เพราะถึงจะเพิ่มเข้าไปถึง 2 คนในช่องว่างที่เติมเต็มไป ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยื่นมือมาช่วยทำงานหรอกนะ
แล้วทำไมต้อง 2 คนล่ะ? บางทีก็ไม่ได้ชอบหน้ากันหรอกนะ แต่ถ้าไม่เกาะกันไว้ก็ไม่มีใครเอาแล้วเพราะดันไม่ทำงานทั้งคู่
สัญญาไม่เป็นสัญญา
“เดี๋ยวเราดูแลส่วนนี้ให้เอง เชื่อใจได้เลย”
น่าเชื่อถือขนาดนี้ใครจะไม่เชื่อ? ตอนจะเข้ากลุ่มสัญญาไว้เต็มสิบซะดิบดี พอนัดส่งงานเหลือเพียงหนึ่ง อาจจะมาในรูปแบบพูดแล้วกลับคำบ้าง ทำจริงแต่ลอกอินเทอร์เน็ตมาทั้งดุ้นบ้าง แต่จะแบบไหนเดี๋ยวก็ต้องให้เดอะแบกมาแก้อยู่ดี ครั้งแรกยังได้เพราะคนยังเชื่ออยู่ แต่ทำบ่อยๆ เข้าเดี๋ยวเขาจะไม่ให้เข้าเอากลุ่มนะ
ไอเดียฉ่ำ แต่ทำไปทำไม?
“เราขอเสนอว่าเราเอาน้ำสัปปะรดกับน้ำมะนาวมาลองเทียบค่าพีเอชกันดีกว่า”
วรา แต่พวกเรากำลังทำโปรเจ็กต์มาร์เก็ตติงน้ำมะนาวนะ แล้วใครจะรู้ค่าพีเอช?
ไม่ นายไม่ต้องเอาเลขนั่นไปจ้างคนคิดให้ เดี๋ยวเราไปกรอกเข้าเอกซ์เซลเอาก็ได้
วรา ส่งแค่เปเปอร์เฉยๆ ก็ได้ นายจะเสนอให้เอาไประบายสีทำไม
ขอบคุณสำหรับไอเดียนะ แต่นี่มันเสียเวลาประชุมไหม?
นักวาร์ป
“…”
งานวิจัยบอกว่ามนุษย์สามารถจำหน้าคนได้ราวๆ 10,000 คนในชีวิต และใน 10,000 คนนั้นเราอาจจำชื่อได้ไม่กี่ชื่อ ในขณะที่ตอนนี้เราไม่ได้รู้จักคนเกินจำนวนนั้นแน่นอน แต่ไอ้นี่มันคือใครวะ?
ก็ว่าแล้วว่าตลอดเดือนที่ทำงานด้วยกันมาในกลุ่ม 5 คน มันมีช่องว่างให้ลมพัดผ่านอยู่เสมอ ช่องว่างที่ควรจะเป็นพื้นที่ของมือช่วยเหลืออีกมือ กลับหายไปตั้งแต่วันแรกและกลับมาอีกครั้งในวันพรีเซนต์ ซึ่งสิ่งเดียวที่เห็นคือ มีชื่อปรากฏในงาน
ขอให้ได้ขัด
“ไม่เอาอะ ทำแบบนั้นธรรมดาไป”
ให้ตายเถอะสิ วโรจน์ นี่เป็นไอเดียที่ 5 ที่นายปัดตกไปแล้วนะ! ตั้งแต่เลือกหัวหน้ากลุ่ม นายก็ไม่เอาใครเลยที่กลุ่มเสนอ จนให้เลือกเองนายก็ยังจะมาขัดเรื่องอื่นอีก! อยู่ตัวคนเดียวทำไมถึงยังเสียงดังได้ขนาดนี้?
เสนออะไรไปก็ไม่เอา จะปรับอะไรก็ขัด แถมถามว่าจะเอาอะไรก็ไม่ให้ไอเดียเพิ่ม เดี๋ยวจะปิดสวิตช์ให้นะ