ในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน งดใกล้ชิดผู้เกินกว่า 2 เมตร ไม่มีคอนเสิร์ตหรืองานอีเวนต์ให้จอยแบบเมื่อก่อน มนุษย์สายปาร์ตี้ สายสังคม หรือที่เรียกว่าเอ็กซ์โทรเวิร์ต (extrovert) หลายคนคงหดหู่ใจ นั่งๆ นอนๆ พร้อมกับอาการเหงา เศร้า เซ็ง อยากจะออกไปเที่ยวเล่นและพบปะเพื่อนฝูง
แต่สำหรับคนบางกลุ่มถือว่าเป็นเรื่องที่ชิลมาก หรือเรียกได้ว่าเตรียมรับมือมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะนี่คือไลฟ์สไตล์ที่แท้จริงของพวกเขา กลุ่มคนที่ไม่ค่อยออกไปไหน ชอบทำอะไรอยู่คนเดียว มีความสุขกับมุมเล็กๆ ของตัวเอง หรือที่เรารู้จักคนกลุ่มนี้ว่าอินโทรเวิร์ต (introvert) คนที่มีบุคลิกชอบเก็บตัวและสบายใจที่ได้อยู่ตามลำพังนั่นเอง
การประกาศปิดสถานศึกษา สถานบันเทิง งดการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ ให้ทำงานจากที่บ้านได้ หลายคนมองว่าเป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัย แต่สำหรับพวกเขาอาจกลายเป็นความสบายใจที่ไม่ต้องอยู่ท่ามกลางคนมากมายที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือที่ทำงาน ซึ่งสิ่งที่พวกเขาอยากจะบอกในช่วงนี้ก็คือ การทำ self-quarantine หรือ social distancing อาจไม่ได้แย่หรือน่าเศร้าเสมอไปอย่างที่ใครคิด
สำหรับคนอินโทรเวิร์ต การได้กลับมาอยู่เงียบๆ ที่บ้านเปรียบเสมือนช่วงเวลาที่ตัวเราได้เป็น ‘อิสระ’ จากโลกภายนอก ไม่ต้องรับมือกับภาวะกลัวพลาดข่าวสารหรือ FOMO เพราะขณะนี้คงเกิดเหตุการณ์อยู่ไม่กี่อย่าง ร้านอาหารก็ปิด โรงภาพยนตร์ไม่ฉายหนัง แล้วอีเวนต์ต่างๆ ก็ถูกยกเลิก ดังนั้นจึงไม่มีเหตุจำเป็นที่เราจะต้องอัพเดทตลอดเวลาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง นอกซะจากข่าวสารที่สำคัญจริงๆ เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อ สถานที่สุ่มเสี่ยง หรือมาตรการรับมือใหม่ๆ ที่มีการประกาศออกมา
จำได้มั้ยว่าคุณได้นั่งนิ่งๆ อยู่บ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? การไม่ได้เข้าออฟฟิศหมายความว่าเราไม่จำเป็นจะต้องทำตัวให้โปรดักทีฟตลอดเวลา หรือไม่จำเป็นจะต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แกล้งทำเป็นตั้งใจทำงานทุกวินาที เพราะการทำงานที่บ้าน เราอาจจะแอบไปงีบสักครึ่งชั่วโมงที่ตรงไหนก็ได้ของห้อง แวะไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงสักครู่หนึ่ง หาของกินในตู้เย็นใส่ปาก หรือนั่งเหม่อปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่ไม่ต้องกลัวเจ้านายจับผิด แล้วเมื่อร่างกายและสมองพร้อมจะกลับมาทำงานต่อเมื่อไหร่ ก็ค่อยมาลงมือกันอีกที แบบนี้น่าจะช่วยให้การทำงานเครียดน้อยลง แต่ก็ระวังในบางกิจกรรมที่อาจทำให้เสียสมาธิมากกว่าเดิมด้วยเหมือนกัน
แต่สำหรับใครที่มีปัญหาในการสร้างสรรค์ผลงานเวลาอยู่บ้าน หรือรู้สึกว่าการ work from home ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมกับตัวเองสักเท่าไหร่ ก็ลองหาเพื่อนสักคนที่มีบุคลิกแบบอินโทรเวิร์ตดู เพื่อขอคำแนะนำว่าพวกเขาคิดงานออกได้อย่างไรในสภาวะที่เงียบสงบแบบนี้ บางทีเราอาจจะได้ทริกการทำงานใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้กับตัวเองก็ได้นะ
คนเอ็กซ์โทรเวิร์ตอาจใช้โอกาสนี้ในการเติมพลังให้กับตัวเอง ทดลองเป็นคนอินโทรเวิร์ตสักพักเพื่อชาร์จแบตร่างกายที่เสียไปในช่วงก่อนหน้า แต่ถ้ารู้สึกอยู่เฉยๆ แล้วยิ่งเฉา หรือรู้สึกว่าพลังงานร่างกายยิ่งลดลงมากกว่าเดิม ก็ลองหาอะไรทำภายในบ้าน อาจจะเป็นสิ่งที่คิดจะทำมานาน แต่ไม่มีโอกาสสักทีเพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้านคนเดียว เช่น ทำอาหาร จัดบ้าน diy สิ่งของ ดีไม่ดีเราอาจจะค้นพบงานอดิเรกใหม่ๆ ให้กับชีวิต แล้วค่อยชวนเพื่อนๆ มาทำร่วมกันทีหลังก็ได้
โดยทั้งหมดนี้ก็ใช่ว่าเราจะห่างหายไปจากเพื่อนฝูงซะทีเดียว เพราะเรายังสามารถคงสังคมไว้ได้ผ่านการพูดคุยในโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นแชต อย่าง line, skype, facebook, instagram หรือ twitter และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นเมื่อไหร่ ก็กลับออกไปปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยง ให้เท่าที่เก็บกดกันมานาน
คนอินโทรเวิร์ตไม่ใช่คนที่ตัดขาดจากโลกภายนอก เพียงแต่ว่าพวกเขารับมือกับการอยู่คนเดียวได้เท่านั้นเอง แม้นี่จะไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ของใครหลายๆ คน แต่ในช่วงที่ต้อง self-quarantine และ social distancing เพื่อหลีกเลี่ยงโรคโควิด-19 ก็ลองนำวิธีคิดและแนวทางของพวกเขามาใช้แก้ขัดดูก็ไม่เสียหาย
อ้างอิงข้อมูลจาก