เลือกตั้งก็ถูกเลื่อน ตรวจสอบการใช้จ่ายรัฐบาลก็ไม่ได้ ที่มาของทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลอย่างนาฬิกาจำนวนมากของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ไม่โปร่งใส นี่จะวิพากษ์วิจารณ์กระเป๋าถือของภริยานายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้อีก สิทธิพลเมืองไม่เหลือหรอเลย พอจะเดินมิตรภาพไปขอนแก่นพูดเรื่องหลักประกันสุขภาพ, ความมั่นคงทางอาหาร, สิทธิชุมชนก็โดนตำรวจล้อมไว้อีก หันไปดูการเคลื่อนไหวสิทธิอื่นๆ บ้างดีกว่า
หันไปหันมา ดันไปเห็นโฆษณา Thailand LGBT Expo ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี จัดเพียง 4 วัน ตั้งแต่ 25-28 มกราคม 2561 โอโห้!! พอรู้ว่าเป็นมหกรรมความหลากหลายทางเพศที่จัดเป็นครั้งแรกในประเทศที่สิทธิร่อยหรอลงเรื่อยๆ ฉันก็แทบจะขี่รุ้งพุ่งไปชมงาน
งานแสดงสินค้านี้เริ่มเป็นข่าวเกรียวกราวตั้งแต่งานแถลงข่าว เนื่องจากมีเสรี วงษ์มณฑาเป็นประธานแถลงข่าว เพราะหลายคนยังคงจดฝังใจถึงวีรกรรมวีรเวรของนางได้ เมื่อครั้งเธอเข้าร่วมเวทีราชดำเนินของกปปส.ในปี 2557 ก็เที่ยวไปตีตราคนนั้นคนนี้ว่า ‘ขี้ข้า’ ‘ชั่วร้าย’ ‘เลวทราม’ ‘พ่อแม่ไม่มีปัญญาสั่งสอน’ และในปี 2554 ที่นางมีสปีชในงานเสวนาพิเศษพระราชกฤษฎีกา “อภัยโทษ ซ้ำเติมวิกฤตประเทศไทย” ว่า การเลือกตั้งคือการเน้นปริมาณคะแนนเสียง ไม่ได้เน้นคะแนนเสียงเชิงคุณภาพ ทำให้ได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งแบบไร้คุณภาพ รังให้เกิดโทษมากกว่าคุณแก่บ้านเมือง ซึ่งเท่ากับว่านางปฏิเสธการมีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกัน ทำเอาหลายคนหัวร้อน เพราะงานที่ว่าด้วยศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การยอมรับความเท่าเทียม ดันไปเชิญคนประเภทที่ไม่รู้สี่รู้แปดเรื่องความเท่าเทียมของความเป็นคนมาเป็นองค์ปาฐก ซึ่งก็มีคนออกมาเถียงแทนแก้ต่างว่า นี่มันงานว่าด้วยความหลากหลายทางเพศย่ะ ไม่ใช่การเมือง
เหมือนกับที่เธอกล่าวในงานว่า “วันนี้เราก็เห็นแล้วว่า เราได้รับการยอมรับทางกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 กันยา 2558 กฎหมายว่าด้วยความทัดเทียมทางเพศ ได้ประกาศใช้… ” บลา บลา บลา
งาช้างไม่งอกจากปากสุนัขฉันใด รัฐบาลที่ทหารมาจากการขโมยสิทธิเสรีภาพ ไม่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม พูดเรื่องประกันสุขภาพปากท้องยังไม่ได้ กระบวนการออกกฎหมายก็ขาดความชอบธรรม ก็ไม่สามารถคุ้มครองหรือรับรองสิทธิประชาชนในประเทศฉันนั้น
แถม พรบ. อะไรนั่นก็ไม่ได้กล่าวถึง เพศภาวะ/เพศสภาพ/เพศสถานะ เพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศเลยสักคำ มันจึงเป็นแต่เพียงถุงกาวที่รัฐยื่นให้ดมจนเคลิ้มไปว่า LGBTIQ อะไรต่อมิอะไร ได้รับการยอมรับทางกฎหมาย ทัดเทียมกับผู้ชายผู้หญิงแล้ว ดีใจจนเนื้อเต้นได้สักพัก แล้วก็ต้องกลับมาดูโลกแห่งความเป็นจริงที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ภายใต้รองเท้าคอมแบตของรัฐเผด็จการ ผู้ริดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานของเราอยู่ทุกขณะจิต
เอาเป็นว่าเวทีประเภทพูดเรื่องสิทธิ LGBT ได้จัดบ่อยกว่าเวทีประเด็นอื่นๆ เช่น สิทธิพลเมือง, สิทธิชุมชน, ประกันสุขภาพ, คัดค้านโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน, กิจกรรมเพื่อไผ่ ดาวดิน, รำลึก 24 มิถุนายน
ด้วยเหตุนี้เราจึงมี Thailand LGBT Expo
เมื่อก้าวเข้าสู่งานก็ได้รับการต้อนรับด้วยนิทรรศการ LGBT Hall of Fame ที่รวมภาพถ่ายและ quote ของเซเลบเมืองไทยมากมายด้านหน้างาน ที่ไม่เพียงแสดงถึงความหลากหลายทางเพศ แต่ยังแสดงถึงความหลากหลายของทัศนคติที่มีต่อ LGBT ทุกคนพูดในเชิงบวก บวกถึงขั้นยก LGBT ให้เหนือกว่าเพศอื่นๆ บ้างอย่าง “เป็นเพศที่เพศอื่นขาดหายไป” หรือพูดเอาใจปลอบประโลมแบบไม่สนข้อเท็จจริงบ้าง เช่นเพศที่สาม (ยังใช้คำนี้กันอยู่อีกหรอ) เป็นเพศที่ได้เปรียบกว่าเพราะที่สมองซีกซ้ายและขวามีความเป็นชายและความเป็นหญิงในคนเดียวกัน ไม่ก็ LGBT คนพวกนี้ล้วนเป็นอัจฉริยะ
โอย!! สรุปนี่งาน LGBT หรืองานซูเปอร์ฮีโร่ค่าย Marvel
แต่ก็พอใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่ได้เห็น quote เล็ก ดาวิกา ที่ว่า “โลกใบนี้ไม่ได้มีใครที่จะระบุว่าต้องมีแค่เพศชายและเพศหญิง ดังนั้น จึงอย่าจำกัดความว่า LGBT คือเพศที่สาม” quote ของกันย์ มุกดาสนิท “ถ้าตัดเรื่องเพศออกไป เราก็คือมนุษย์ร่วมโลกเดียวกัน มีดีและไม่ดีเหมือนๆ กัน จงเปิดใจและเรียนรู้ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็พอ” หรือ ของพอลลีน งามพริ้ง “เราไม่ได้อยากสวยกว่าหรือเก่งกว่าผู้หญิง เราแค่อยากให้มองเราเป็นผู้หญิง” ที่ไม่ได้จัดวางให้ LGBT เป็นมนุษย์พิเศษ ประหลาด หรือเหนือธรรมชาติ เหมือนกับที่สัมภาษณ์เซเลบในงานที่บอกว่า LGBT มีพรสวรรค์เกินที่พระเจ้าให้มา หรือในปาร์ตี้เปิดงานที่ speaker บอกว่า LGBT เป็นเพศที่สร้างสรรค์สังคม มีพรสวรรค์ และฉลาดมากๆ
ร้านรวงบูธสินค้าภายในงาน ตั้งอยู่ห่างๆ กระจัดกระจายโหรงเหรง มีผลิตภัณฑ์และบริการอย่างละร้าน เช่น บูธบริการทางการเงิน, คอนโด, ชุดชั้นใน, เครื่องประดับ, เครื่องสำอาง, ชุดยางอุปกรณ์ B&D (Bondage and Discipline), หนังสือ, รีสอร์ต, อาหารหมาแมว, ส้มตำ, โรตี, ลูกชิ้นหมู, เหล้า, กาแฟ, ชากุหลาบ ภายในฮอลชนาดใหญ่โตที่หันไปทางซ้ายทางขวาก็เห็นงานเกือบครบ ผู้เข้าชมบางตาน่าหงอยเหงา (เอาเข้าจริงนะ เพื่อนเกย์กะเทยบางคนยังไม่รู้เลยว่ามีงานนี้อุบัติขึ้นบนโลก) จนคนขายคนชมงานต้องชมกันเองคุยกันเอง เจรจาต้าอ่วยกันเอง เดินสวนกันเองสี่ห้ารอบ บูธที่ดูเหมือนจะได้รับความสนใจมากที่สุดก็คือบูธถ่ายรูปคู่กับนายแบบหล่อล่ำกล้ามเป็นมัดๆ นุ่งน้อยห่มน้อยหมออ้อยแพลม ที่แถวต่อคิวยาวเหยียด
แม้ว่างาน Pet Expo ยังจะสนุกกว่า แต่ก็หวังว่าจะมี LGBT Expo ครั้งต่อๆ ไปและให้กำลังใจผู้จัดงานทุกคน
ทั้งๆ ที่ Thailand LGBT Expo มีจุดประสงค์เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางในการนำเสนอสินค้า บริการสำหรับเพศสภาพเพศวิถีที่หลากหลาย สนับสนุนเสริมสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์สินค้าที่ LGBT friendly เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคองค์กรชุมชน ด้วยความเชื่อว่า LGBT เป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่น่าจับตามองของนักการตลาด เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีรสนิยมและมีกำลังซื้อสูง อำนาจในการจับจ่ายใช้สอย สามารถเคลื่อนไหวธุรกิจได้เป็นอย่างดี
จริงดิ…!? ในประเทศที่ค่าแรงขั้นต่ำปี 2561 เพิ่งกำหนดให้เพียง 308-330 บาทต่อวันหรือเฉลี่ย 315.97 บาทต่อวัน แถมจะพูดเรื่องหลักประกันสุขภาพ ความมั่นคงทางอาหาร แล้วตำรวจยังเข้ามาคุกคาม แบบนี้จะไปหากำลังซื้อมาจากไหน
ดูเหมือนว่ากิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ของ expo นี้คือ ‘กิจกรรมสร้างสรรค์’ อันได้แก่ Thailand LGBT Fashion Showcase 2018 รันเวย์อัญเชิญเซเลบมาเดินแบบ งานประกวดความงามมงลงต่างๆ เช่น เวที ‘มหัศจรรย์นางงามไทย One Man One Women’ ที่เป็นการแข่งเปลี่ยนโฉมพลิกคาแรคเตอร์ เป็นหญิงก็สวยด้วยชุดราตรีสุภาพสตรี เป็นชายก็หล่อด้วยสูทสุภาพบุรุษ, เวทีประกวด ‘Thai Queen Super POK Model Contest’ อันเป็นการประกวด ‘ลูกสาวเพศสร้างสรรค์ที่ผมยาวไม่เกินปลายหู ยังไม่ศัลยกรรมนม (นมยาคุมประกวดได้)’ ชิงรางวัลเงินสด 8,000 บาท มงเพชรและสายสะพาย, ประกวด Miss BBC Gay World 2018 ที่เน้นตลกอารมณ์ขันและสร้างสรรค์ความเวร์อวัง แปลกประหลาด ชิงเงินรางวัลมูลค่าสูงสุดกว่า 100,000 บาท และเวทีประกวดเฟ้นหาเกย์หนุ่มหล่อชาวไทย Mr. Gay World Thailand 2018 ที่คล้ายกับประกวดนางงามๆ ทั่วไป มีทั้งชุดประจำชาติ สูท และชุดเปิดเผยเรือนร่างที่มีทั้งผอมบาง หุ่นหมี หุ่นล่ำกำยำ นอกจากนี้ยังมี LGBTมาโชว์เต้น ลิปซิงก์ ร้องเพลงสลับงานทุกวัน
งาน LGBT Expo ครั้งแรกแห่งประเทศไทย ประเทศที่มักจะอวยกันว่าเป็นสรวงสวรรค์ของความหลากหลายทางเพศ เป็น LGBT playground ของโลก (ตอนเปิดงานพูดแบบนั้นจริงๆ นะ) จึงเป็นภาพตัวแทนและการผลิตซ้ำของขบวนการแสวงหาการยอมรับและการดำรงอยู่ของ LGBT ในสังคมไทย ที่ยังถูกจัดวางในฐานะสีสัน กะเทยเป็นตัวตลกชวนหัว เกย์เป็นพวกบ้าผู้ชาย แต่ยังดีที่มีกำลังในการใช้จ่ายบริโภคสูงเพราะเป็นเพศที่ฉลาด ความคิดสร้างสรรค์โดยกำเนิด แล้วเป็นกลุ่มไม่ต้องมีลูกมีเต้า ไม่เสียค่าเทอมค่าเรียนพิเศษ กลายเป็นความหลากหลายทางเพศที่ไม่หลากหลาย เป็นการนิยามคุณค่าความหมายให้แตกต่างไปจากมนุษย์หญิงชายเท่านั้น แต่ไม่ได้พูดคุยสื่อสารด้านการสร้างความยอมรับในฐานะมนุษย์คนนึง
และด้วยเหตุนี้การได้รับความยอมรับทางสังคมของ LGBT จึงขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนบุคคล เพราะเขาตลกโปกฮา เขาเก่ง เขามีพรสวรรค์ เขาเป็นเซเลบ เขาประกวดได้รางวัล เขาแต่งกายยอดเยี่ยม สวยเหมือนผู้หญิง หล่อเหมือนผู้ชาย เป็นผู้กลุ่มบริโภคสำคัญที่มีกำลังซื้อสูง ได้รับการยอมรับในฐานะลูกค้ากลุ่ม Niche market
แต่ไม่ได้เป็นการยอมรับในระดับโครงสร้างว่ามนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะมีเพศวิถีเพศสภาพ อัตลักษณ์ทางเพศอย่างไร ล้วนมีศักดิ์ศรี คุณค่าความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียม และมีเสรีภาพในการเลือกหรือประกอบสร้างเพศสภาพเพศวิถีของตนเอง และรัฐเองก็ต้องป้องกันคุ้มครอง ไม่ปล่อยให้เกิดการเลือกปฏิบัติ ความรุนแรง หรือปฏิบัติการใดๆ ที่จะละเมิดสิทธิเสรีภาพ
และด้วยการเคลื่อนไหวเพื่อความหลากหลายทางเพศแบบไทยๆ นี้เอง LGBT จึงต้องถีบตัวเองในระดับปัจเจกมากกว่ามวลชน การได้รับการยอมรับจึงเสมือนรางวัลประเภทสายสะพายและมงที่ต้องเป็นหนึ่งในร้อยและต้องแข่งขันประชันกันเอง
ไม่ได้บอกว่าไม่ควรจัดงานประกวดเกย์หล่อล่ำงานดี หญิงข้ามเพศสวยๆ แข่งกะเทยแต่งหญิงตลกๆ มาประชัน หรือเอาหนุ่มๆ นุ่งน้อยห่มน้อยยั่วยิ้มมาเป็นสีสัน เพราะการเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิความหลากหลายทางเพศย่อมแยกไม่ออกไปจากความใคร่และความต้องการทางเพศ ซ้ำความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์ขันก็มีได้กับทุกๆ เพศ และที่สำคัญ Pro choice ย่อมดีกว่าเสมอ
หลังจากหาวไปสามสี่รอบ จิบชากุหลาบไปหลายซิบ ฉันก็ถูกชักชวนให้ไปนั่งชมงานประกวด ‘Mr.Gay World Thailand 2018’ โอ้ววว… หวังว่าหนุ่มๆ คงรู้จัก social movement นะ โชคดีเป็นช่วงประกวดชุดประจำชาติพอดี
เนื่องจาก ‘ชุดประจำชาติ’ ในงานประกวดความงามไม่ว่าจะเพศใด ผู้เข้าประกวดต่างต้องแบกอัตลักษณ์ ‘ความเป็นรัฐชาติ’ ผ่านเครื่องแต่งกายเสื้อผ้าหน้าผม ซึ่งในงานประกวดก็เต็มไปด้วยชุดประเภทหนุ่มชาววัง เทวดาในจิตรกรรม สัตว์ในวรรณคดี นักรบทหาร กลายเป็นนิยามอัตลักษณ์รัฐชาติสมัยใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับประชาชน เหมือนกับที่ LGBT expo ไม่สามารถเชื่อมโยงการเคลื่อนไหวด้านสิทธิของ LGBT เข้ากับการเมืองภาคประชาชน ขบวนการประชาสังคมและการเมืองภาครัฐได้ เช่นเดียวกับขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนข้ามเพศและคนรักเพศเดียวกันแบบไทยๆ ที่แยกออกมาต่างหากจากการเมืองภาครัฐ
บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ขบวนการเคลื่อนไหวเรื่อง LGBT ถึงได้รับการอนุญาตให้จัดกิจกรรมมากกว่ากระบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองอื่นๆ
ชุดประจำชาติที่ฉันตื่นตาตื่นใจและลุ้นอยากให้ได้รางวัลยอดเยี่ยมคือ ‘ชุดผัดไท’ ที่ผู้เข้าประกวดเอากะทะคว่ำเป็นหมวกปีกกว้าง แต่งด้วยถั่วงอกดิบประดับผม หัวปลีเป็นต่างหู แจ็คเก็ตทำด้วยเส้นจันท์เป็นริ้วๆ ห่มบ่า มีริ้วใบกุยช่ายปิดส่วนล่าง เข็มขัดทำด้วยเต้าหู้หั่นเต๋าร้อยเป็นสาย มือนึงถือตะหลิว อีกมือถือหมอนรูปกุ้งขนาดใหญ่ ….นั่ลลั๊กกกกก
และชุดประจำชาติยอดเยี่ยมของ Mr.Gay World Thailand ประจำปี 2018 ได้แก่… (ดนตรีเร้าอารมณ์อลังการ LED backdrop ก็สาดประโคม)
‘ชุดฝนหลวง’ ที่ผู้เข้าประกวดร่างล่ำในชุดไทยประยุกต์เปลือยอก สวมชฎา ติดเมฆโฟมไว้ที่บ่าประดับด้วยคริสตัลพลาสติกห้อยระย้ากรุยกรายแพรวพราวลงมา ประพิมพ์ประพายคล้ายสายฝน