ได้นอนกันบ้างหรือยังชาวเผือกทั้งหลาย~ เอ๊ะ บางคนเขาบอกว่าเขาไม่ได้ไปเผือกไปมันอะไรทั้งนั้น แต่นี่คือการอุทิศตัวและเวลา เป็นเหล่าผู้ทุ่มเทเพื่อค้นหาข้อมูลในเรื่องคนอื่น
อะได้ได้ เรียกอย่างงั้นก็ได้
(อ้อ แล้วก็ต้องมีคนบอกว่า โอ๊ยยยย–จักรวาลทวิตเตอร์โหดกว่านี้อีก!! –ซึ่งนั่นฉันก็รู้ แต่ฉันจะเขียนถึงอินสตาแกรมหรือไอจีไง โอเคนะ)
เอาจริงๆ จากใจคือฉันนับถือมากนะ มันใช้พลังงานไม่น้อยในการดูรูป ดูจุดสังเกต ค้นคลังดาราในสมอง ค้นประวัติความเชื่อมโยงของเขาและเธอเหล่านั้น เสิร์ชกูเกิลเพิ่มเติมเผื่อเจอหน้าเดิมของเจ้าของข่าวเผื่อได้ประเด็นเมาท์เพิ่ม เหย เจอข่าวเก่าว่าเคยด่ากันกับคนนี้ด้วย ดูซิมันฟอลโลว์ใครบ้าง ต๊ายยยยย อันฟอลฯคนนี้ไปแล้วว่ะเธอ กดดูแฮชแทคมันซิใครใช้อันนี้อีกบ้าง แกดูกลุ่มเพื่อนๆ เค้าด้วยสิ ว่าใครทีมใครฯลฯ
ยากนะนั่น ต้องถึงพร้อมทั้งข้อมูล ข้อเท็จจริง จินตนาการ และเวลา
ในฐานะที่สามารถเคลมแรงๆ ได้ว่าเล่นอินสตาแกรมในยุคแรกเริ่ม (ถ้าไม่เชื่อดูจากชื่อแอคเคาท์ฉันก็ได้ ใช้ชื่อย่อแค่ 3 ตัวเท่านั้นคือ itr เพราะตอนนั้นยังไม่มีใครเล่นเลย ฉันสนุกของฉันอยู่กับชาวต่างชาติที่ไหนก็ไม่รู้ไม่เกิน 10 คน มาถึงตอนนี้ใช้ตัวอักษรสั้นๆ แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว) ฉันไม่เคยคิดเลยว่าโลกแห่งไอจีจะเดินทางมาไกลมากถึงเพียงนี้ กลายเป็นแหล่งทำมาหากิน หาข่าว ทำการกุศล ขายของ สร้างอิมเมจและอื่นๆ อีกมากมายที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อวงการบันเทิงทั้งไทยและเทศชนิดเจ๊แจคเกอลีน ณ ทีวีพูลต้องร้องไห้ ที่ถือไมค์ไปตามสัมภาษณ์แต่ละเรื่องไม่ทันอีกต่อไป
นอกจากนี้ยังสร้างวิถีการตลาดใหม่ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องซื้อเวลาออกอากาศทางโทรทัศน์อีกต่อไป แค่ใช้พรีเซนเตอร์จากไอจี ถ้าเป็นดาราก็แพงหน่อย ชาวบ้านทั่วไปที่เหมาะกับสินค้าก็ถูกหน่อย ทางเจ้าของสินค้าจะคิดชุดข้อความมาให้เสร็จสรรพ พร้อมแฮชแทคให้ติดตาม จะให้ถือ ให้อยู่ในรูป หรือให้เอาหน้าแนบก็มีราคาแตกต่างกันออกไป เซเลบไทยๆ ก็มีตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักแสน ดาราที่ฉันรู้จักคนหนึ่งคือรับเงินห้าหมื่นแลกกับการเช็กอินสถานที่ของสินค้านั้น พร้อมลงรูปซัก 2 รูป หรืออย่างเซเลน่า โกเมซที่การลงรูปเธอและสินค้าในอินสตาแกรมหนึ่งครั้ง มีมูลค่าถึง 425,400 ปอนด์ หรือเทียบเป็นเงินไทยประมาณ 18 ล้านบาท
18 ล้านน่ะคุณ
เรียกว่าการเกิดมาของแอปฯนี้สั่นสะเทือนไปแทบทุกพื้นที่ของอุตสาหกรรมบันเทิง จากแต่ก่อนที่เราจะรู้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของดารานักแสดงนักร้องที่เราชื่นชอบ (หรือเกลียดชัง) ผ่านทางนักข่าวเท่านั้น ตอนนี้เราก็แค่กดฟอลโลว์ แล้วฉากชีวิต แนวคิด วิตามิน หมาแมว ไลฟ์สไตล์ ลูกเล็กเด็กแดง อาหารการกินหรืออะไรๆ ก็ตามที่คนเหล่านั้นใช้ (หรือไม่ได้ใช้หรอก แค่รับเงินมาโปรโมท) จะปรากฏขึ้นมาให้เราได้ติดตามและวิจารณ์กันอย่างเมามัน
ไม่ใช่แค่เราๆ ทั่วไปเท่านั้นที่ตาม แต่กลายเป็นว่าข่าวหลายข่าวก็เริ่มมาจากไอจี แถมเป็นกระแสเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาได้ก็ไม่ใช่ด้วยนักข่าวอาชีพ แต่มาจากเหล่าผู้ทุ่มเททั่วๆ ไปนี่แหละ
คุ้ยแคะแกะเกาจนที่สุดนักข่าวต้องตามไปสัมภาษณ์จนได้
ทั้งข่าวรักๆ เลิกๆ หย่าร้าง ข่าวตีกับสปอนเซอร์เสื้อผ้า ข่าวใช้แอปฯเพิ่มนมยืดขา ข่าวเกาเหลานานาชนิดที่มีมาเรื่อยๆ ผ่านแนวรบไอจี
และกระทั่งเซเลบไปสร้างไอจีอีกชื่อหนึ่ง สายสืบก็ยังตามหาเจอจนได้ อย่างนักร้องสาว Lorde ที่สร้างบัญชีไอจีขึ้นมาอีกอันไว้รีวิวหัวหอมทอดขำๆ กับเพื่อนๆ (รีวิวหัวหอมทอดเนี่ยนะ…) เมาท์มอยหอยสังข์กันเล่นๆ ก็ยังมีคนตาผี ต่อจุดเชื่อมโยงว่าเอ๊ะ ไอจีหอมทอดที่แสนจะสับปะรังเคนี้ ทำไมจึงมีนักร้องชื่อดังมาตามฟอลโลว์แถมรูปหอมทอดแต่ละร้านนั้นก็เช็กอินสถานที่ในเมืองเดียวกับที่นักร้องสาวไปเปิดการแสดงอีก
เมื่อความลับถูกเปิดเผยเช่นนี้แล้ว เธอเลยบอกว่าอายเกินกว่าจะเล่นต่อ พอๆ ไม่เอาแล้ว
แต่ถ้าถามฉัน, ฉันว่า Lorde ต้องแอบไปเปิดบัญชีใหม่ให้ลับแลกว่าเดิมแน่ๆ คุณเชื่อเถอะ
เพราะคนเรานั้นทั้งอยากบอกและไม่อยากบอกคนไปในเวลาเดียวกัน เรื่องบางเรื่องมีไว้คุยกันเองขำๆในหมู่คนรู้จักที่รู้ทางเท่าทันมุก ไปไหนเจออะไรก็อยากจะเล่าอยากจะแบ่งปัน แต่ก็ไม่ได้อยากให้โลกรู้ไปเสียทุกเรื่อง
จะเปรียบง่ายๆ ก็เปรียบได้กับคนที่รับพ่อแม่ผู้ปกครองเข้ามาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กน่ะ บางคนไม่มีปัญหาอะไรก็แล้วไป แต่บางพ่อแม่ก็พาวงแตกได้เบาๆ เวลาลูกลืมตัวเมาท์อะไรแรงๆ ทีเล่นทีจริงกับเพื่อนฝูง เป็นได้โดนซักไซ้ไล่เลียง ดุว่ากันก็ไม่น้อย จนบางคนต้องตั้งกรุ๊ปตั้งกลุ่ม บ้างก็สร้างอวตารขึ้นมาอีกบัญชีไปเลย ว่าอันนี้ใช้กับพ่อแม่ แชร์คำคมและหลักธรรมรัวๆ ในขณะที่อีกบัญชีหนึ่งก็เป็นรูปปาร์ตี้ เมาท์เรื่องสี่สี่แปดแปดกับเพื่อนได้ออกรสชาติ
คุณก็ต้องมีล่ะน่า บางเรื่องที่เห็นแล้วจี๊ดจนอยากเม้ากับเพื่อนเดี๋ยวนั้น จะรอจนนัดเจอกันก็ไม่ทันการ ได้แต่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแล้วส่งหลังไมค์ไปเม้ากันรัวๆ
ถ้าถามว่าดาราเขารู้ไหม ว่าอะไรที่ทำแล้วจะเป็นประเด็น
รู้สิ
คืออาจจะไม่แน่ใจในการใหญ่โตลุกลามของเรื่องนั้นๆ แต่ถามว่าจะไม่รู้เลยเหรอว่ามันจะกลายเป็นประเด็นขึ้นมานี่ส่วนใหญ่ก็รู้กันทั้งนั้นแหละ แต่มันก็เคยมือน่ะคุณ มันมีความไปรเวทในความไม่ไปรเวทของไอจีอยู่ในเวลาเดียวกัน เหมือนเวลาโพสต์เฟซบุ๊กน่ะ ถามว่าตั้งใจให้เป็นประเด็นมั้ย -ใช่-ตั้งใจให้เป็นประเด็นพูดคุยกับเพื่อนในเฟรนด์ลิสต์ แต่ไม่ได้จะอยากให้มันไปเป็นลิงก์ข่าวตามเว็บใดๆ หรอก (อันนี้ฉันโดนมาจนสาหัสแล้ว ด้วยความโง่ของตัวเองที่คิดไปว่า ถ้าคนเขาจะเอาไปทำข่าวเขาต้องถามเราก่อนสิ เหมือนสมัยก่อนตอนเพิ่งเริ่มเข้าวงการไงล่ะ ที่ต้องมีพี่นักข่าวมาคุยก่อนว่าเป็นอะไรยังไง ก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าเดี๋ยวนี้เขาหยิบไปลงกันได้เลย แถมลงให้ไม่ครบ ตัดแปลงต่อเติมตีฟูจนกลายเป็นเรื่องมหึมาไปเลยก็มี) แต่เอาจริงๆจากใจ ว่ามีคนที่ตั้งใจทำเพื่อให้เป็นข่าวนี่มีไหม ก็บอกไว้ตรงนี้เลยว่า-มี-
แล้วเขาก็ใช้ความอยากรู้ของเรานี่ล่ะ เอามาทำให้เป็นประเด็นได้
ลงๆ หยุดๆ ลบๆ แก้ๆ ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็ต้องมีคนเห็น มีคนเชื่อมโยง มีประเด็น มีฝ่ายเดียวกัน มีฝ่ายตรงข้าม และก็จะนำมาซึ่งการที่ใครเชิญไปออกงานเพื่ออธิบายที่มาที่ไปของประเด็นในไอจีนั้นจนได้ในที่สุด
วิน-วิน ทุกคนมีความสุข ขาเผือกได้เรื่องเมาท์ ดาราได้งาน (หรือถ้าไม่ได้เป็นดาราก็ดูจะส่องแสงแวววาวขึ้นมาคราวนี้เอง)
หลายๆ คนก็อาจจะงงว่า มีเรื่องแล้วทำไมไม่คุยกันเอง -ก็นี่ล่ะความกึ่งส่วนตัวกึ่งไม่ส่วนตัวของไอจี- คือมันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เราจะออกความเห็น แต่แน่นอนว่าพอลงไอ้ความเห็นส่วนตัวนี้ลงไปกระกอบรูปในไอจี มันก็จะถูกหยิบไปขยายความ ไม่ว่ารูปหรือคำจะนามธรรมลับแลขนาดไหน อาจเริ่มจากการเอะใจของคนที่ตามส่องอยู่ หรือเริ่มจากบทสนทนาใต้รูปจากกลุ่มเพื่อนๆ ให้สะกิดต่อมสงสัย
จากนั้นไฟก็จะเริ่มลามทุ่ง
ไอ้ที่ไม่คุยกันเองเพราะบางทีมันก็หยุมหยิมมาก/ขี้เกียจอธิบาย/เก็บกดไว้ลึกๆ ในใจ หรือไม่ก็ไม่รู้จักกัน (แม่ง) มันมาด่ากูทำไมวะ?!!?
อะ เอาซะหน่อย
อ้าว ก็อยากให้มันรู้ว่ากูรู้ กูฟังและกูอยากด่า
อยากด่าแต่ไม่อยากชี้หน้าด่า ก็ทำเป็นพูดลอยๆ ไปอะไรไป
เปรียบไปก็เหมือนเหมือนพวกชะนีมือที่ 3 ที่ต้องทำลับล่อวอบแวบให้รู้จนได้แหละ ไม่ยอมอยู่เฉยๆ หรอก ถ่ายติดมือติดแขน ถ่ายรูปในสถานที่เดียวกัน เช็กอินด้วยกัน พอเราทนไม่ไหวกรี๊ดวี้ดขึ้นมาก็เข้าทาง นางจะได้เล่นบทนางเอกเจ้าน้ำตาว่าโดนกระทำ
วงจรการด่าแขวะกันก็ประมาณนี้กับแทบทุกคนบนโลก
ดาราน่ะรู้ตัวว่าเป็นดารา แต่ก่อนจะเป็นดาราเราล้วนเป็นมนุษย์ก่อน บางอย่างเราก็ข้ามมันไปได้ เสียได้ ไม่สนใจได้ แต่บางเรื่องก็ไม่ไหวจริงๆ จนอยากระบายมันก็มี
ฉันเองที่อยู่ๆ เคยโดนด่าขึ้นมาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ก็ออกจะบ่อย ถ้าเป็นคนทั่วไปก็ปลงๆ ว่าช่างมันเถอะ แต่พอเป็นคนในวงการเดียวกันมันก็แน่นหน้าอก กรดไหลย้อนขึ้นมาเหมือนกัน เพราะงานก็ทำอยู่วงการเดียวกัน ทำไมไม่เรียนรู้บ้างหนอ ว่าของมันโดนใส่ร้าย/ตัดต่อ/ตีความกันได้
ไอ้อย่างนี้ล่ะเคืองจริง
แถมนอกจากร่ายยาวกดข่มจนฉันกลายเป็นเห็บเหาแมลงสาบแล้ว พอบอกดีๆ ว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ทำ ก็ยังทำเบลอๆ ตัดบทไปว่าขี้เกียจพูดให้เข้าทางความอยากดังของฉัน อันนี้มันก็จี๊ดสิ
น้อยมากนะคุณที่เรื่องจะจบลงด้วยการขอโทษจากผู้เป็นฝ่ายเข้าใจผิด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันยากเย็นตรงไหน ได้แต่ทำเบลอๆ ลบรูปลบข้อความทิ้งไป แห้งสบายเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
แต่นอกจากสายเผือกแล้ว โลกเรายังมีสายแคป เป็นผู้ที่อุทิศตนให้แก่หลักฐานต่างๆ จะมีเรื่องหรือไม่ก็เอาไว้ก่อน แต่ขอแคปเก็บหน้าจอเอาไว้หน่อยเถิด จะได้เป็นหลักฐานว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง อย่ามาเนียนว่าไม่รู้หรือเพื่อนแกล้งแมวพิมพ์ใดๆ
จะว่าโลกนี้อยู่ยากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ฉันก็ได้แต่มองพัฒนาการของไอจีไปอย่างเพลิดเพลิน
อะไรนะ?
บ้า ไม่มี้ ฉันไม่เผือกเรื่องของใครเล้ยยยยยย *เสียงสูง*
นี่อ่านข่าวก็เพื่อจะสรุปมาเขียนให้ได้อ่านกันเท่านั้นเอง
จริงจริ๊งงงงงงงงงงงงงงง