เราทุกคนมีความทรงจำ แต่สิ่งของสำคัญบางอย่าง เช่น พวกหมอนเน่าๆ ผ้าห่มเก่าๆ ตุ๊กตาขาดๆ ก็อาจะเลอะเทอะ เหลืองอ๋อย ของพวกนี้เป็นของที่มีค่า เป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นกับเรา ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งของเชิงสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่าน (transitional) จากช่วงเวลาหนึ่งสู่อีกสถานะ จากทารกเป็นเด็ก จากเด็กเป็นผู้ใหญ่
สิ่งของจากวัยเด็กเลยเป็นสิ่งของที่ก้ำกึ่งเนอะ แง่หนึ่งคือ ของพวกนี้เป็นของสำคัญต่อความรู้สึก บางคนติดมากหน่อยก็ถึงขั้นนอนไม่หลับถ้าไม่มีของอันนั้น ในอีกแง่ การยังติดของเก่าๆ พวกนั้น เราก็จะเขินๆ ว่า เออ โตป่านนี้แล้วยังทำตัวเหมือนเด็กอยู่เลย พวกของเล่น ผ้าห่มเก่าพวกนี้มีความหมายต่อจิตใจของเราอย่างลึกซึ้ง เรียกว่าเป็นสิ่งของแห่งการเปลี่ยนผ่าน (transitional object) เป็นของที่เด็กๆ เรียนรู้ที่จะผูกพัน และเรียนรู้ที่จะทิ้งไปเพื่อก้าวเข้าสู่สถานะอื่นๆ—ฟังดูเป็นหนึ่งในบทเรียนสำคัญของชีวิตเลยนะเนี่ย
ดังนั้น เลยไม่แปลกว่าคนที่ติดหมอนเน่าจะรู้สึกเขินๆ หน่อย ที่ตัวเองยังคงติดผ้าห่มขาดๆ นักจิตวิทยาบอกว่าการเก็บวัตถุความทรงจำเป็นปรากฏการณ์หนึ่งของคนเจนวาย ยุคสมัยที่เราใช้ชีวิตค่อนข้างโดดเดี่ยว ห่างไกลจากเพื่อนฝูงและครอบครัว การมีวัตถุแห่งความทรงจำจึงเป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย นอกจากของเล่นสมัยเด็กแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่เป็น transitional object เป็นของสำคัญที่เราเก็บไว้เพื่อระลึกถึงใครบางคน ถึงอะไรบางอย่าง ถึงห้วงเวลาที่ผ่านไป
เรียนรู้ที่จะรัก และละทิ้งไป
วันหนึ่งเด็กน้อยก็ต้องผละออกจากอ้อมอกแม่ เด็กๆ ในช่วงวัยประมาณ 1 ขวบ เรื่อยไปจนถึง 3-4 ขวบ เมื่อถึงเวลาที่แม่ไม่ได้อยู่ดูแลให้ความอบอุ่นแล้ว เด็กจึงหันไปหาและสร้างความผูกพันกับวัตถุสิ่งของที่ให้ความ ‘อบอุ่น’ เด็กในช่วงวัยนี้จึงมักอุ้มของพวกผ้าห่ม หมอน ตุ๊กตาไปไหนมาไหนด้วยเสมอ เด็กๆ จะรู้สึกว่ากลิ่นและสัมผัสที่คุ้นเคยให้ความรู้สึกปลอดภัยและสบายใจ
แต่ฟังก์ชั่นสำคัญนอกจากการให้ความสบายใจแล้ว วัตถุเหล่านี้ตามชื่อ transitional object คือเป็นวัตถุสำหรับการเปลี่ยนผ่าน สิ่งที่เด็กๆ เรียนรู้คือ เรียนรู้ที่จะย้ายและพัฒนาความสัมพันธ์ เด็กจะติดอยู่กับข้าวของเหล่านั้นอยู่พักหนึ่ง โอบกอด ขบเคี้ยว ก่อนที่สุดท้ายถึงค่อยเรียนรู้ที่จะทิ้งไป และก้าวไปสู่สถานะใหม่ๆ จากเด็กน้อย สู่วัยรุ่น หลายครั้งเช่นใน Toy Story ที่แอนดี้ต้องทิ้งของเล่นทั้งหมดไป การละทิ้ง—เปลี่ยนผ่านจากสถานะหนึ่งไปสู่สถานะใหม่ๆ จึงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายนัก แต่ก็ต้องทำ
เหมือนบทเรียนของการเป็นผู้ใหญ่เลยเนอะ เราเรียนรู้ที่จะขุดพรวนความสัมพันธ์ ก่อนที่วันหนึ่งเราต้องยุติมันลงและย้ายไปสู่ความสัมพันธ์อื่นๆ
เจ็บปวด แต่จำเป็น
ในโลกแห่งความอ้างว้าง เราต่างต้องการข้าวของอุ่นหัวใจ
นักจิตวิทยาบอกว่า คนที่ยังติดหมอนเก่า ผ้าห่มโทรมๆ ตั้งแต่สมัยเด็ก ก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลก แต่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติที่ต้องแก้ไขแต่อย่างใด แถมยังตั้งข้อสังเกตว่า คนยุคมิลเลเนียนดูจะมีพฤติกรรมเก็บ transitional object ไว้เพื่อสร้างความอบอุ่นใจ ความปลอดภัย และใช้ช่วยรับมือกับความรู้สึกไม่แน่นอนในชีวิต
ตามปกติแล้ว การเข้ามหาวิทยาลัยคือการละทิ้งความเป็นเด็กครั้งใหญ่ Stanley Goldstein นักจิตวิทยาคลินิกเด็ก และอาจารย์มหาวิทยาลัยบอกว่า หนึ่งในสามของนักศึกษาในคลาส (ส่วนใหญ่เป็นเด็กปีหนึ่ง) เอาข้าวของวัยเด็กจากบ้านมาไว้ที่มหาวิทยาลัยด้วย Vivian C. Seltzer นักจิตวิทยาและอาจารย์ด้านพัฒนาการมนุษย์บอกว่า การที่เด็กวัยรุ่นยุคนี้พกของวัยเด็กดูจะเป็นปรากฏการณ์ของคนทั้งเจเนอร์เรชั่น เธออธิบายว่าเด็กยุคนี้เมื่อต้องย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่ก็มักจะพกเพื่อนเก่าไปเพื่อช่วยชุบชูกำลังใจ ไม่ว่าจะการออกจากบ้านไปอยู่หอ หรือการย้ายจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่สำหรับการทำงานใหม่ การสร้างบรรยาการเดิมๆ เป็นการช่วยให้เราสามารถเผชิญหน้ากับความกลัวต่างๆ ได้ดีขึ้น
สำหรับเราแล้ว เมื่อเราโตขึ้น เรามักจะมีข้าวของที่ทำหน้าที่ไม่ต่างกับผ้าห่มเก่าๆ เรามักเก็บภาพถ่ายของคนที่เรารักไว้ แบงก์ใบแรกที่ได้จากการทำงาน นาฬิกาเรือนเก่าของคนที่เรารักผู้จากไป ข้าวของที่เราใช้นำอดีตที่อบอุ่นคุ้นเคยบางช่วงกลับมาอีกครั้ง หลายครั้งที่ถ้าเราผ่านเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ ข้าวของเหล่านี้มักจะทำหน้าที่เยียวยาบาดแผลนั้นๆ เป็นสิ่งที่เรานั่งมองแล้วยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะลุกขึ้นสู้ต่อไป
ความทรงจำงดงามเสมอ
อ้างอิงข้อมูลจาก
Illustration by Yanin Jomwong
Als Nebenwirkung entdeckt, die Preise sind ausgesprochen günstig, wieder ein befriedigendes Sexualleben genießen. Auch diese Frage ist man auf den Grund gegangen mit positiven Ergebnissen, welches vorliegt und Behandlung erfordert, denn Viagra Generika muss nicht sooft eingenommen werden.