หลังการพิจารณายืดเยื้อมากว่า 1 ปี วันนี้ (12 ต.ค. 65) ที่ประชุมของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติเลื่อนลงมติทรู–ดีแทค อีก โดยให้เหตุผลว่า ต้องรอข้อมูลใหม่เพิ่มเติม พร้อมตั้งวาระพิเศษให้พิจารณา 20 ต.ค. นี้
ในวันนี้ ที่ประชุม กสทช. มีวาระพิจารณาเรื่องการควบรวมธุรกิจระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ้ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ซึ่งที่ประชุมยังไม่สามารถสรุปมติการควบรวมได้แล้วเสร็จ
หลังประชุมกันราว 3 ชั่วโมง ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. ออกมาระบุว่า ที่ประชุมมีมติเลื่อนลงมติดีลควบรวมไปก่อน และจะมีการนัดประชุมเป็นวาระพิเศษเพื่อตัดสินเรื่องนี้ ในวันที่ 20 ต.ค. นี้
เพราะ บอร์ด กสทช. ต้องการรอข้อมูลใหม่เพิ่มเติม หลังจากที่บอร์ด กสทช. มีมติให้จ้างบริษัท SCF Associates บริษัทวิจัยต่างประเทศมาศึกษาผลกระทบที่จะเกิดกับผู้บริโภคหาก 2 บริษัทนี้ควบรวมกิจการ ซึ่งตอนนี้ บอร์ด กสทช. ได้รับข้อมูลมาเพียงบางส่วนเท่านั้น รายงานเอกสารส่วนที่เหลือจะส่งถึง กสทช. ในวันที่ 14 ต.ค. นี้
กสทช. จึงต้องรอข้อมูลใหม่เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา และเพื่อนำมาหารือถึงขั้นตอนการลงมติเพื่อพิจารณาว่าจะให้เกิดการควบรวมหรือไม่ อย่างไร
อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ (11 ต.ค. 65) ตัวแทนจากทรูและดีแทค เพิ่งเข้ายื่นหนังสือขอให้ กสทช. เร่งพิจารณาดีลควบรวมนี้โดยเร็ว และให้เหตุผลว่า ยิ่งล้าช้า ธุรกิจจะยิ่งเสียหาย
การประกาศควบรวมกิจการของ 2 บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่นี้ บางส่วนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาในวงการธุรกิจ แต่ก็มีบางส่วนกังวลว่านี่อาจนำมาสู่การผูกขาดได้
ซึ่ง ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เผยว่า หากการควบรวมครั้งนี้สำเร็จ จะกระทบกับค่าครองชีพและเงินของประชาชน โดยค่าโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตของประชาชนอาจแพงขึ้นได้
อ่านผลกระทบจากการควบรวม ‘TRUE-DTAC’ ของ The MATTER ได้ที่: https://thematter.co/quick-bite/quickbite-true-buy-dtac/182722
อ้างอิงจาก
https://www.matichon.co.th/economy/news_3614028
https://www.bangkokbiznews.com/tech/1031999
https://thematter.co/brief/187803/187803