หลายประเทศต่างก็มีมหาวิทยาลัยชื่อดัง ติดท็อปของประเทศ ที่เด็กหลายๆ คน ตั้งเป้าอยากจะสอบเข้าให้ได้ ในระดับโลกเอง ก็มีกลุ่มมหาวิทยาลัยระดับท็อป ที่นักเรียนจากทั่วโลก อยากเข้าให้ได้
หนึ่งในนั้นคือมหาวิทยาลัยในกลุ่ม Ivy League มหา’ลัย ชื่อดังในสหรัฐฯ ที่เรียกได้ว่า มีชื่อเสียงด้านการศึกษา ต้องแย่ง แข่งขันในการสอบเข้าแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงในการเข้าเรียนด้วย
Ivy League เป็นการรวมมหาวิทยาลัยเอกชน 8 แห่ง ที่ถือเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เป็นที่ต้องการระดับท็อปของสหรัฐฯ และทั่วโลก โดยมหาวิทยาลัยใน Ivy League จะอยู่ในฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และต่างมีกระบวนการคัดเลือกผู้เข้าศึกษาที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ และยากลำดับต้นๆ ของโลก รวมถึงมีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งในระดับผู้นำโลก และเจ้าของกิจการทั่วโลกด้วย
แม้ว่าจะเป็นกลุ่มของมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่ Ivy League ก็เกิดขึ้นจากแข่งขันกีฬาในสถาบันอุดมศึกษา จากองค์กรจัดกีฬามหาวิทยาลัย The National Collegiate Athletic Association (NCAA) ที่ในที่ประชุมในปี 1954 ได้คัดเลือกมหาวิทยาลัย 8 แห่งที่เป็นเลิศด้านการศึกษา มีผลการเรียนยอดเยี่ยม มีศิษย์เก่าได้รับรางวัลโนเบล ประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับด้านการวิจัยด้วย โดยสัญลักษณ์ของกลุ่ม คือใบไอวี ที่เป็นเถาไม้เลื้อยที่นิยมปลูกเกาะคลุมผนังด้านนอกของตึกเรียนเก่าแก่ของมหาวิทยาลัย ซึ่งทุกวันนี้ มหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ก็ยังเป็นคู่แข่งทางการกีฬากัน
จากการสำรวจของเว็บไซต์จัดอันดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย Niche ได้สำรวจค่าเทอมโดยเฉลี่ยของมหาวิทยาลัยใน Ivy League และรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการศึกษา ทั้งค่าหอพัก อาหาร และอุปกรณ์การเรียนในปี 2019 มาแล้ว
มหาวิทยาลัยบราวน์ Brown University
มหาวิทยาลัยบราวน์ ก่อตั้งในปี 1764 เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ออกแบบหลักสูตรของตัวเอง เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกใน Ivy League ที่ก่อตั้งสาขาวิศวกรรมศาสตร์ และยังมีหลักสูตรสหสาขาวิชาชีพ เช่น อียิปต์ศึกษา อัสซีเรียศึกษา ประสาทวิทยา ธุรกิจ ผู้ประกอบการองค์กรด้วย ทั้งนักศึกษาระดับปริญญาตรียังมีสโมสรและองค์กรมากกว่า 400 แห่งให้เลือกและนักศึกษาปีแรกทุกคนอาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยด้วย
จากการสำรวจของเว็บไซต์จัดอันดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย Niche ได้สำรวจค่าเทอมโดยเฉลี่ยของมหาวิทยาลัยใน Ivy League และรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการศึกษา ทั้งค่าหอพัก อาหาร และอุปกรณ์การเรียนมาแล้ว สำหรับมหาวิทยาลัยบราวน์ มีค่าเล่าเรียนเฉลี่ย $53,419 ต่อปี และรวมราคาค่าใช้จ่ายสุทธิอื่นๆ อีก $25,651 ต่อปี ด้วย
โดยบราวน์ มีศิษย์เก่าที่โด่งดังอย่างนักแสดง Emma Watson หรือเฮอร์ไมโอนี่ จาก Harry Potter ที่จบจากสาขาวรรณกรรมภาษาอังกฤษ และ Janet Yellen อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ ที่จบด้านเศรษฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย Columbia University
มหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐนิวยอร์ก ก่อตั้งในปี 1754 และเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่อันดับ 5 ของสหรัฐฯ มีคณาจารย์ และศิษย์เก่าได้รับรางวัลโนเบลมากที่สุดอันดับ 2 ของโลก โคลัมเบียยังเป็นแหล่งกำเนิดของเทคโนโลยี และแพลตฟอร์มที่สำคัญ ทั้ง วิทยุ FM, นิตยสารวรรณกรรมที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ, กลุ่มสนับสนุนนักเรียนผิวสีคนแรก และกลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิเกย์เป็นกลุ่มแรกด้วย
จากการสำรวจ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เป็นสถาบันที่มีค่าใช้จ่ายแพงที่สุดในบรรดากลุ่ม Ivy League อยู่ที่ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย $57,208 ต่อปี และรวมราคาค่าใช้จ่ายสุทธิอื่นๆ อีก $22,824 ต่อปี หรือรวมแล้วประมาณเกือบ 2.5 ล้านบาท
โคลัมเบีย มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงอย่างอดีตประธานาธิบดี Barack Obama ที่จบการในสาขาเชี่ยวชาญคือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านรัฐศาสตร์ และ Warren Buffett ที่จบด้านธุรกิจจาก Columbia Business School ด้วย
มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ Cornell University
คอร์เนลล์ เป็นมหาวิทยาลัยน้องใหม่ที่สุดในในกลุ่ม Ivy League ก่อตั้งในปี 1865 เป็นมหาวิทยาลัยที่มุ่งสอนทุกสาขาวิชา โดยมีคณะวิชาและวิทยาลัยจำนวน 14 แห่ง ซึ่งแต่ละคณะสามารถรับนักศึกษาได้ด้วยตัวเอง โดยมหาวิทยาลัยจะมีงานประเพณีที่เก่าแก่ชื่อว่า Dragon Day ที่นักเรียนวิศวกรรมศาสตร์จะประดิษฐ์มังกร และแห่รอบมหาวิทยาลัย
คอร์แนลล์ มีค่าเล่าเรียนเฉลี่ยอยู่ที่ $52,853 ต่อปี และรวมราคาค่าใช้จ่ายสุทธิ $31,449 ต่อปี ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ของกลุ่ม Ivy League
และมีศิษย์เก่าที่โด่งดังอย่าง Toni Morrison นักเขียนรางวัลโนเบล และพูลิตเซอร์ ที่จบทั้งปริญญาตรี และโทสาขาภาษาอังกฤษ จากที่นี่ และยังมีนักเรียนต่างชาติที่เป็นผู้นำของไต้หวันอย่าง Lee Teng-hui อดีตประธานาธิบดีไต้หวันในช่วง 1988-2000 และหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง ที่ได้จบปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์เกษตรจากคอร์แนลล์
วิทยาลัยดาร์ตมัธ Dartmouth College
ดาร์ตมัธ ก่อตั้งในปี 1769 เป็นแหล่งกำเนิดนวัตกรรมคอมพิวเตอร์มากมาย ทั้งยังก่อตั้งโปรแกรมชนพื้นเมืองแห่งแรกในอเมริกา ที่รับสมัครนักเเรียน ที่เป็นบัณทิตชาวอเมริกันพื้นเมืองมากกว่าสถาบันอื่นๆ ของ Ivy League ดาร์ตมัธเป็นวิทยาลัยที่เล็กที่สุดใน Ivy League มีสาขาที่ได้รับความนิยมคือ สังคมศาสตร์, ชีวภาพ, วิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์, วิศวกรรม และประวัติศาสตร์ ทั้งยังมีกิจกรรม ประเพณีสำคัญที่สร้างความเป็นกันเองในหมู่นักเรียน เช่น กิจกรรม Big Weekend ที่ให้นักเรียนได้ผ่อนคลายจากการเรียน เทอมละครั้ง
ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยของดาร์ตมัธอยู่ที่ $53,496 ต่อปี และรวมราคาค่าใช้จ่ายสุทธิอื่นๆ อยู่ที่ $22,303 ต่อปี
ศิษย์เก่าของดาร์ตมัธที่มีชื่อเสียงคือ Dr.Seuss นักวาดการ์ตูน และทำภาพยนตร์ ซึ่งในช่วงที่เรียนที่นี่ เขาได้ทำ และเป็นบก. นิตยสารด้วย อีกคนหนึ่งคือ Nelson Rockefeller รองประธานาธิบดีในสมัยของ ปธน. Gerald Ford ซึ่งจบด้านเศรษฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด Harvard University
ก่อตั้งในปี 1636 เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ในฐานะสถาบันวิจัยเอกชน Harvard มีศูนย์วิจัยมากกว่า 100 แห่ง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีโรงเรียนและสถาบันการศึกษา 13 แห่ง รวมถึงโรงเรียนแพทย์ที่ติดอันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ โรงเรียนธุรกิจ, วิศวกรรมศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและโรงเรียนการปกครอง John F. Kennedy
ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยของฮาร์วาร์ดคือ $48,949 ต่อปี และรวมราคาค่าใช้จ่ายสุทธิ $17,030 ต่อปี ซึ่งถือว่าถูกที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากปรินต์ตัน
และมีศิษย์เก่าคนสำคัญคือ Mark Zuckerberg ที่ได้เริ่มก่อตั้งเฟซบุ๊กสมัยที่เข้าเรียนที่นี่ และนักแสดงชื่อดังอย่าง Natalie Portman ที่เรียนจบด้านจิตวิทยา
มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย The University of Pennsylvania
เพนซิลเวเนีย หรือถูกเรียกว่า UPenn หรือ Penn ถูกก่อตั้งโดย Benjamin Franklin หนึ่งในบิดาผู้สร้างชาติของสหรัฐอเมริกา ในปี 1740 ที่ต้องการนำเสนอส่วนผสมของหลักสูตรศิลปศาสตร์ระดับโลกและการศึกษาระดับมืออาชีพ มีนักเรียนต่างชาติมากที่สุดในทุกโรงเรียนของ Ivy League ด้วย
UPenn มีค่าเล่าเรียนเฉลี่ย $53,534 ต่อปี และรวมราคาค่าใช้จ่ายสุทธิอื่นๆ อยู่ที่ $24,539 ต่อปี ซึ่งถือว่าแพงที่สุดอันดับ 2 ในกลุ่ม Ivy League เลยด้วย
UPenn มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงคือ Elon Musk ซึ่งได้เรียนปริญญา 2 ใบคือด้านฟิสิกส์ และธุรกิจเลยด้วย และยังมี Ivan Trump ลูกสาวของ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จบด้านธุรกิจเช่นกัน
มหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน Princeton University
มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดอันดับที่ 4 ของสหรัฐฯ ก่อตั้งในปี 1746 เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีชื่อเสียงมากในด้านสาขาวิศวกรรมศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ชีวการแพทย์ รัฐประศาสนศาสตร์ บริการสังคม และประวัติศาสตร์ ด้วยอัตราส่วนนักศึกษา 5 คน ต่ออาจารย์ 1 คน ทำให้นักเรียนได้รับประโยชน์จากชั้นเรียนขนาดเล็ก และความสัมพันธ์แบบตัวต่อตัว ทั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีค่าเทอมถูกที่สุดในกลุ่ม Ivy League ด้วย
ปรินซ์ตันถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีค่าเล่าเรียนถูกที่สุดในกลุ่ม Ivy League โดยมีค่าเล่าเรียนเฉลี่ย $47,140 ต่อปี และค่าใช้จ่ายสุทธิอื่นๆ อีก $16,302 ต่อปี หรือประมาณ 1.9 ล้านบาท
โดยมีศิษย์เก่าอย่าง Woodrow Wilson ปธน.คนที่ 28 ของสหรัฐฯ ซึ่งเรียน ปรัชญาการเมืองและประวัติศาสตร์ และในสมัยนั้นเขาได้เป็นประธานมหาวิทยาลัยปรินซ์ตันด้วย และ Jeff Bezos CEO ของ Amazon ที่จบด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
มหาวิทยาลัยเยล Yale University
ก่อตั้งในปี 1701 เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดอันดับ 3 ของสหรัฐฯ และขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เข้ายากที่สุดในสหรัฐฯ มีชื่อเสียงด้านการละคร และดนตรี (Yale School of Drama) นอกจากนี้ สาขาวิชาที่ได้รับความนิยมอื่นๆ ยังมี สาขาวิชาสังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์ การศึกษาแบบสหวิทยาการ วิศวกรรม และพื้นที่ศึกษา ชาติพันธุ์ วัฒนธรรม เพศและกลุ่มศึกษา
โดยเยล มีค่าเล่าเรียนเฉลี่ยอยู่ที่ $51,400 ต่อปี และรวมราคาค่าใช้จ่ายสุทธิอื่นๆ $18,053 ต่อปี
ด้วยมีชื่อเสียงด้านการละครและดนตรี มหาวิทยาลัยนี้ก็มีศิษย์เก่าอย่างดาราฮอลลีวู๊ดชื่อดัง Meryl Streep ที่ศึกษาด้านการละคร Yale School of Drama และ George H. W. Bush ประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐฯ ที่เรียนด้านเศรษฐกิจ